ราคาเมล็ดกาแฟกำลังพุ่ง อาจทำให้ราคากาแฟสูงตาม เร็ว ๆ นี้ /โดย ลงทุนแมน
หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า วันนี้ราคาเมล็ดกาแฟ ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการนำมาทำกาแฟที่เราดื่มกันทุกวันนี้ กำลังมีราคาเพิ่มขึ้นมาอย่างมาก
พอรู้แบบนี้แล้ว หลายคนก็เริ่มตั้งคำถามกันขึ้นมาว่า
ถ้าราคาวัตถุดิบอย่างเมล็ดกาแฟเพิ่มขึ้น
แล้วธุรกิจร้านขายกาแฟชื่อดังอย่าง Starbucks จะได้รับผลกระทบหรือไม่ ?
สาเหตุอะไร ที่ทำให้ราคาเมล็ดกาแฟปรับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ปัจจุบัน กาแฟนับเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมมากที่สุดชนิดหนึ่งในโลก ทั้งยังเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีมูลค่าการส่งออกมากเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากน้ำมัน
หากลองย้อนไปดูประวัติศาสตร์ของกาแฟแบบคร่าว ๆ จะพบว่า กาแฟเริ่มปลูกขึ้นครั้งแรกในแถบตะวันออกกลางในช่วงศตวรรษที่ 15
เวลาผ่านไปหลายร้อยปี ปัจจุบัน มีการปลูกกาแฟกันมากกว่า 70 ประเทศทั่วโลก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในเขตร้อนชื้น ที่เอื้อต่อการเติบโตของต้นกาแฟ
โดยเฉพาะประเทศที่ตั้งอยู่ในทวีปลาตินอเมริกาและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ลองมาดู 3 ประเทศ ที่ผลิตเมล็ดกาแฟรายใหญ่ของโลก ในปี 2019
1. บราซิล ปริมาณการผลิต 3.6 ล้านเมตริกตันต่อปี
2. เวียดนาม ปริมาณการผลิต 1.8 ล้านเมตริกตันต่อปี
3. โคลอมเบีย ปริมาณการผลิต 0.9 ล้านเมตริกตันต่อปี
จากตัวเลขที่เห็นนี้ รู้ไหมว่า แค่ปริมาณการผลิตเมล็ดกาแฟจากบราซิลประเทศเดียว ก็คิดเป็นสัดส่วนถึง 1 ใน 3 ของปริมาณการผลิตของโลก
ดังนั้น หากเกิดเหตุการณ์อะไรที่มากระทบกับปริมาณการผลิตกาแฟภายในประเทศเหล่านี้ ก็ย่อมจะส่งผลต่อราคาเมล็ดกาแฟอย่างมีนัยสำคัญ
ทีนี้เราลองมาดู เหตุการณ์สำคัญ ที่ทำให้ราคาเมล็ดกาแฟปรับตัวสูงขึ้น
- สภาพภูมิอากาศที่แปรปรวนในแถบอเมริกาใต้
ช่วงที่ผ่านมา เกิดสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวนในแถบอเมริกาใต้ โดยเฉพาะบริเวณประเทศบราซิล ส่งผลต่อปริมาณผลผลิตเมล็ดกาแฟของบราซิล
อุณหภูมิที่ลดต่ำอย่างรวดเร็วในบางช่วง ทำให้เกิดปรากฏการณ์น้ำค้างแข็ง เกาะบริเวณต้นและใบของต้นกาแฟที่อยู่ในช่วงของการเจริญเติบโต ซึ่งไม่ใช่สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับต้นกาแฟ
โดยเฉพาะพื้นที่ทางตอนใต้ของประเทศที่ชื่อว่า “Minas Gerais” ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกกาแฟหลักของประเทศ
ในปี 2020 รัฐแห่งนี้เป็นผู้ผลิตเมล็ดกาแฟสายพันธุ์อะราบิการายใหญ่ที่สุดในบราซิล โดยมีปริมาณการผลิตคิดเป็นสัดส่วนกว่า 74% ของปริมาณการผลิตของประเทศ
- เหตุการณ์การประท้วง ในโคลอมเบีย
ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา ประชาชนจำนวนมากได้ออกมาคัดค้านและต่อต้านการปฏิรูปภาษีของรัฐบาลของประเทศตนเอง
กลุ่มผู้ประท้วง ตอบโต้การกระทำของรัฐบาลด้วยการออกมาปิดเส้นทางสัญจรในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ส่งผลให้การขนส่งสินค้าต่าง ๆ ได้รับผลกระทบอย่างหนัก
รวมถึงการขนส่งเมล็ดกาแฟและผลิตภัณฑ์จากเมล็ดกาแฟอื่น ๆ เนื่องจากการปิดถนน ทำให้ผู้ส่งออกหลายราย ไม่สามารถรับกาแฟและเมล็ดกาแฟเพื่อไปส่งออกได้ และทำให้ยอดการส่งออกเมล็ดกาแฟของประเทศลดลง
สองเรื่องนี้ ถือเป็นปัจจัยหลัก ๆ ในช่วงที่ผ่านมาและในตอนนี้ ที่ทำให้ราคาเมล็ดกาแฟที่ซื้อขายกันในตลาดนั้นเพิ่มสูงขึ้น
สิ้นปี 2020 ราคาเมล็ดกาแฟเท่ากับ 1.28 ดอลลาร์สหรัฐต่อน้ำหนัก 1 ปอนด์
สิ้นเดือนกรกฎาคม 2021 ราคาเมล็ดกาแฟเท่ากับ 1.80 ดอลลาร์สหรัฐต่อน้ำหนัก 1 ปอนด์
จะเห็นว่าในระยะเวลา 7 เดือนที่ผ่านมา ราคาเมล็ดกาแฟปรับขึ้นมาประมาณ 41%
นอกจากนั้น ราคาเมล็ดกาแฟอะราบิกาในตลาดซื้อขายล่วงหน้า ICE Futures ในสหรัฐอเมริกา ก็มีราคาสูงขึ้นมาก ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
พอหลายคนรู้แบบนี้ก็น่าจะคิดต่อไปว่า แล้วธุรกิจร้านกาแฟที่ต้องอาศัยวัตถุดิบสำคัญอย่างเมล็ดกาแฟ จะได้รับผลกระทบแค่ไหน ? โดยเฉพาะ “Starbucks” ที่ทำธุรกิจเชนร้านกาแฟที่มีสาขาทั่วโลก
โดยทั่วไปแล้ว บริษัทที่ขายเครื่องดื่มที่ใช้กาแฟเป็นวัตถุดิบนั้น มักจะทำสัญญาซื้อเมล็ดกาแฟล่วงหน้า เพื่อลดความผันผวนของราคาต้นทุน
ซึ่งในกรณีของ Starbucks บริษัทบอกว่าทำสัญญา ซื้อเมล็ดกาแฟล่วงหน้าประมาณ 14 เดือน
และบริษัทยังได้ระบุว่า ราคาการซื้อเมล็ดกาแฟของบริษัท มีการทำสัญญาล่วงหน้าไว้แล้ว ทั้งสำหรับปี 2021 และ 2022
หมายความว่า ราคาเมล็ดกาแฟที่ปรับขึ้นในปัจจุบัน ก็คงยังไม่ได้ส่งผลกระทบกับบริษัทมากเท่าไร เนื่องจากต้นทุนเมล็ดกาแฟที่บริษัทซื้อนั้น เป็นต้นทุนที่เกิดขึ้นในช่วงที่ราคายังไม่ปรับตัวสูงก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม ถ้าราคาเมล็ดกาแฟยังปรับตัวสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ บริษัทขายเครื่องดื่มหลายแห่งที่ใช้เมล็ดกาแฟเป็นวัตถุดิบก็ต้องเข้าไปทำสัญญาซื้อเมล็ดกาแฟล่วงหน้าในราคาที่สูงขึ้น
ดังนั้นก็เป็นไปได้ว่า หากราคาเมล็ดกาแฟยังมีราคาอยู่ในระดับสูงแบบนี้
พวกเราก็จะต้องจ่ายเงินซื้อกาแฟที่แพงขึ้น ในเร็ว ๆ นี้..
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
รู้ไหมว่าในปี 2019 ทั่วโลกมีการบริโภคกาแฟวันละ 2,250 ล้านแก้ว โดยประเทศที่บริโภคกาแฟมากที่สุดในโลกคือ สหรัฐอเมริกา ที่มีการบริโภคกาแฟ เฉลี่ยวันละ 500 ล้านแก้ว
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://markets.businessinsider.com/commodities/coffee-price
-https://globalnews.ca/news/8091684/retail-coffee-prices-to-climb/
-https://www.investing.com/commodities/us-coffee-c
-https://farrerscoffee.co.uk/top-10-coffee-producing-countries-around-the-world/
-https://elevencoffees.com/top-coffee-producing-countries/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Minas_Gerais
-https://worldpopulationreview.com/country-rankings/coffee-consumption-by-country
-https://perfectdailygrind.com/2021/05/the-colombia-protests-how-is-the-situation-affecting-the-population-and-the-coffee-sector/
-https://www.mreport.co.th/news/industry-movement/214-Container-Shortage-2021
-https://www.businessinsider.com/starbucks-hedges-coffee-prices-taking-a-cue-from-airlines-2021-7
-https://www.dearretailinvestors.com/the-coffee-crisis-is-coming/
同時也有2部Youtube影片,追蹤數超過10萬的網紅MONGABONG,也在其Youtube影片中提到,Not gonna lie, October has been extremely tough for me. Being coincidentally my birthday month, having expectations of it to be a good one has inevita...
starbucks coffee ideas 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
บริษัทจีนย้อมแมวในสหรัฐ มีเป็นร้อยบริษัท /โดย ลงทุนแมน
หากบริษัทที่เราถือหุ้นมีผลประกอบการที่ดูดีมาโดยตลอด
แต่สุดท้ายเรากลับพบว่าสิ่งที่เราเห็น เป็นเพียงแค่เรื่องหลอกลวงทั้งหมด
เราจะรู้สึกอย่างไร ?
เหตุการณ์ดังกล่าวได้ “เกิดขึ้นจริง” กับธุรกิจสัญชาติจีน
นับร้อยบริษัท ที่เข้าข่ายการทำทุจริต เช่นเดียวกันกับ Luckin Coffee
ที่ตกแต่งงบบัญชีจนมีรายได้เกินจริงเพื่อหลอกนักลงทุนทั้งโลก
การทำทุจริตเหล่านี้ มีจุดเริ่มต้นมาจากอะไร
แล้วเหตุใดบริษัทมากมายสามารถทุจริตได้ ทั้ง ๆ ที่มี ก.ล.ต. ควบคุม
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
เรื่องทั้งหมดนี้ เราต้องย้อนกลับไป
ในช่วงที่ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาถล่มลงช่วงปี 2008 หรือวิกฤติซับไพรม์
นักลงทุนได้มีมุมมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาได้เดินทางมาถึงจุดอิ่มตัว
ส่งผลให้ผู้คนเริ่มมองว่า หุ้นในตลาดสหรัฐอเมริกาไม่น่าดึงดูดอีกต่อไป
เรื่องดังกล่าวได้ส่งผลให้เกิดบริษัทวาณิชธนกิจหัวใส
ที่ต้องการหาผลประโยชน์จากตลาดซบเซา
ได้นำบริษัทจีนเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกา
ในขณะนั้น ประเทศจีนกำลังเติบโตทางด้านเศรษฐกิจอย่างมาก
และบริษัทต่าง ๆ ในจีน ก็เริ่มมีบทบาทในระดับนานาชาติ
แน่นอนว่าด้วยสตอรีที่ดี ก็น่าจะมีแนวโน้มทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา
กลับมาครึกครื้นได้อีกครั้งหนึ่งและผลประโยชน์ก็น่าจะตกกับทุกฝ่าย
บริษัทวาณิชธนกิจ จะได้ค่าบริการจากการให้คำแนะนำแก่บริษัทที่เข้าตลาดหุ้น
ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทจีน ได้ความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้น
นักลงทุนรายย่อยและรายใหญ่ ได้หุ้นที่มีกิจการที่แข็งแกร่งและมีโอกาสเติบโตได้สูง
แต่เหตุการณ์กลับไม่เป็นไปเช่นนั้น
เพราะว่าบริษัทจีนที่ทยอยเข้ามาในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา
มีหลายร้อยบริษัท ที่มีการตกแต่งบัญชี..
โดยบริษัทจีนจะเข้ามาในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกา
ด้วยการใช้วิธีการที่เรียกว่า Backdoor Listing
หรือบริษัทเข้าไปซื้อบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์
โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ตัวเองกลายเป็นบริษัทมหาชน
จากนั้นบริษัทจะทำการจ้าง Big 4 หรือกลุ่มบริษัทที่ตรวจสอบบัญชี
เพื่อเข้ามาตรวจสอบงบการเงินของบริษัท
แน่นอนว่าทางบริษัทต้องตกแต่งบัญชีไว้ก่อนเรียบร้อย
แม้ว่า Big 4 จะตั้งข้อสังเกตกับงบของบริษัทก็ตาม
และได้เขียนหมายเหตุประกอบงบการเงินแล้ว
แต่ผู้คนส่วนใหญ่ก็มักมองข้ามไปเพราะมีโอกาสได้ผลตอบแทนที่สูง
เมื่อครบทุกองค์ประกอบแล้ว
บริษัทก็จะทำการโปรโมตบริษัทตัวเองให้เป็นที่รู้จัก
ด้วยความที่ผลประกอบการที่ปรากฏในงบการเงินนั้นมีแนวโน้มที่ดีมาโดยตลอด
นักลงทุนต่าง ๆ ทั้งรายย่อยรวมถึงสถาบัน จึงตกเป็นเหยื่อและเข้ามาลงทุนในที่สุด
วงจรนี้ก็ได้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
บริษัทจีนต่าง ๆ ทยอยเข้ามาในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา
ผลประกอบการเติบโตอย่างน่าประทับใจ
บริษัทวาณิชธนกิจออกคำแนะนำ “ซื้อ” เข้าไปอีก
ผู้คนจึงแห่เข้ามาลงทุน ราคาหุ้นทะยานสูงขึ้น
เหตุการณ์ก็เป็นเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งมีผู้ที่เห็นความผิดปกติ
โดยบริษัทแรกที่ถูกจับการฉ้อโกงคือ Orient Paper
ผู้นำธุรกิจที่ผลิตและจัดจำหน่ายกระดาษในจีน
ซึ่งบริษัทที่ถูกควบรวมคือ Buffalo Mining ซึ่งถูกจดหุ้นอยู่ในตลาดนิวยอร์ก
เนื่องจาก Buffalo Mining เป็นบริษัทที่มีผลประกอบการที่ย่ำแย่มาเป็นเวลานาน
ส่งผลให้มูลค่าบริษัทนั้นต่ำ ซึ่งง่ายต่อการควบรวมกิจการ
เหตุการณ์เริ่มถูกเปิดโปงเมื่อ Muddy Waters เฮดจ์ฟันด์รายหนึ่ง
เข้าไปสำรวจบริษัทและได้พบว่าบริษัทที่อ้างว่ามีรายได้ 3,000 ล้านบาทต่อปี
กลับมีเพียงแค่โรงงานเล็ก ๆ ในชนบทและเครื่องจักรของโรงงานเกินกว่าครึ่งไม่สามารถใช้งานได้
ทาง Muddy Waters ประเมินแล้วว่า งบของบริษัทน่าจะเกินความเป็นจริง
จึงตีพิมพ์เอกสารเกี่ยวกับการสำรวจบริษัทและข้อสงสัยดังกล่าวออกมา
ซึ่งหลังจากเอกสารได้เผยแพร่
ก็ได้นำไปสู่การตรวจสอบบริษัทจีน
ที่เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกาครั้งใหญ่
ซึ่งต่อมา ก็ได้พบว่ามีหลายบริษัทที่มีพฤติกรรมที่น่าสงสัย
เช่น บริษัท China MediaExpress บริการโฆษณาบนรถประจำทาง
ถูกตั้งข้อสงสัยว่ารายได้ดูดีเกินที่จะเป็นจริง
บริษัท RINO International Corp ทำธุรกิจพลังงานสะอาด
ถูกตรวจสอบและพบว่ารายชื่อลูกค้าของบริษัทนั้นไม่มีอยู่จริง
และก็นำไปสู่การที่บริษัทจีนหลายแห่ง เช่น China Century Dragon Media, China Electric Motor, China Intelligent Lighting และ NIVS IntelliMedia Technology Group
ถูกตั้งข้อสงสัยจนต้องถูกระงับการซื้อขายหุ้น
ทาง TheStreet คาดการณ์ว่าหุ้นบริษัทจีนอาจทำให้นักลงทุน
ต้องเสียเงินอย่างน้อย 34,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากเหตุการณ์ครั้งนี้
หลายคนอาจคิดว่าเรื่องราวการฉ้อโกงเหล่านี้น่าจะกวาดล้างและจบลงไปในที่สุด
แต่เหตุการณ์ที่ตามมา กลับไม่เป็นไปอย่างนั้น
เพราะผู้ที่กระทำความผิด ซึ่งเป็นบริษัทจีน
แต่ประเทศสหรัฐอเมริกาสามารถทำได้เพียงแค่สั่งให้จ่ายค่าปรับเท่านั้น
และค่าปรับที่ว่าก็ถือว่าเป็นก้อนเงินที่เล็กน้อย
เมื่อเทียบกับมูลค่าความเสียหายต่อนักลงทุน
ในขณะที่ธุรกิจวาณิชธนกิจที่เป็นต้นตอของเรื่องทั้งหมดนี้ ก็สามารถโยนความผิดให้กับบริษัทจีนได้
ด้วยเหตุผลเหล่านี้จึงทำให้ยังมีบริษัทจีนที่เข้ามาทุจริตเรื่อย ๆ
อย่าง Luckin Coffee ร้านกาแฟจีน ที่เคยคาดว่าจะมาโค่นล้ม Starbucks
ตอนนี้ก็ได้กลายเป็นอีกหนึ่งบริษัทลวงโลกไปแล้วเรียบร้อย
และเมื่อไม่นานมานี้ Wolfpack ได้ตีพิมพ์เอกสารเกี่ยวกับบริษัทจีนอีกบริษัทหนึ่ง
ว่าอาจจะเป็นบริษัทที่มีการฉ้อโกงเช่นเดียวกับบริษัทจีนอื่น ๆ ที่เคยเป็นมา
บริษัทนั้นคือ EHang Holdings ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิต eVTOL หรือยานพาหนะไฟฟ้า
จากการพบว่าโรงงานผลิตของบริษัทไม่พบชิ้นส่วนยานยนต์เลย
รวมถึงรายชื่อลูกค้าที่ทำสัญญาซื้อขายกับบริษัทเป็นเรื่องหลอกลวง
หลังจาก Wolfpack เผยแพร่เอกสารออกมา
ก็ทำให้ปัจจุบัน EHang Holdings มีมูลค่าบริษัทลดลงกว่า 80% จากจุดสูงสุด
บริษัท GSX Techedu แพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับนักเรียนของจีน
Muddy Waters ก็ได้ตั้งข้อสงสัยว่ามีการปั้นตัวเลขการเติบโตทางรายได้ขึ้นมา
และกล่าวว่าปริมาณนักเรียนบนระบบเกินกว่า 70% เป็นของปลอมด้วย
แม้แต่บริษัท iQIYI สตรีมมิงสัญชาติจีน
ที่ใคร ๆ น่าจะรู้จักกัน ก็ถูกสอบสวนจาก ก.ล.ต. สหรัฐอเมริกา
เรื่องจำนวนผู้ใช้งานและตัวเลขผลประกอบการที่ดูดีเกินจริง
มาถึงตรงนี้ เราก็คงสรุปได้ว่ามหากาพย์บริษัทจีนย้อมแมวเกิดขึ้นมาแล้ว
เกินกว่า 10 ปี และส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดเรื่องราวเหล่านี้
นอกจากจะเป็นบริษัทจีนที่ทำทุจริตเองแล้ว
อีกส่วนที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ “บริษัทวาณิชธนกิจอเมริกัน” ที่เป็นผู้รู้เห็นคนสำคัญที่ช่วยให้แมวถูกย้อมจนมาหลอกลวงคนอื่นได้..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.institutionalinvestor.com/article/b1pj6w14pz0ts2/Could-the-China-Hustle-Law-End-the-Big-Short
-https://www.sec.gov/news/press-release/2020-319#:~:text=The%20SEC's%20complaint%20alleges%20that,through%20three%20separate%20purchasing%20schemes.
-https://www.reuters.com/article/us-china-shortsellers-idUSTRE74A71F20110511
-https://wolfpackresearch.com/research/ehang/
-https://www.muddywatersresearch.com/.../gsx/mw-is-short-gsx/
starbucks coffee ideas 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
กรณีศึกษา Blue Bottle Coffee ได้ดีเพราะ ชงกาแฟช้า /โดย ลงทุนแมน
ในขณะที่ทุกคนเน้นความเร็วในการชงกาแฟ เพื่อให้รับลูกค้าได้มากที่สุด
แต่มีอยู่ร้านหนึ่งที่เน้นความช้า เพื่อให้ลูกค้าได้กาแฟดีที่สุด
ร้านนี้ชื่อ “Blue Bottle Coffee”
ที่ได้รับเงินระดมทุน จนมีมูลค่ามากถึง 2.2 หมื่นล้านบาท
แล้วเรื่องราวของ Blue Bottle Coffee น่าสนใจอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่านและนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ทุกวันนี้ การดื่มกาแฟมีทางเลือกที่หลากหลาย
ทั้งกาแฟที่ชงจากเครื่องชง Espresso ดั้งเดิม แบบที่เราคุ้นเคย
หรือแม้แต่การชงด้วยเครื่องชงกาแฟพิเศษ เช่น ดริป หรือ ไซฟอน
โดยใช้เมล็ดพิเศษ ที่ถูกเรียกกันว่า Specialty ที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงหลัง
จริง ๆ แล้ว กาแฟ ก็เป็นเหมือนสินค้าชนิดอื่น ๆ ที่มีวิวัฒนาการตามยุคสมัย
โดยที่ผ่านมา เราสามารถแบ่งเทรนด์ในการดื่มกาแฟ ออกเป็นคลื่น 3 ลูก
คลื่นลูกที่ 1 เป็นกาแฟสำเร็จรูป ที่เน้นดื่มเพื่อรับกาเฟอีน
คลื่นลูกที่ 2 เป็นกาแฟชงในเชิงการค้า ที่นิยมใช้เครื่อง Espresso
เพราะใช้เวลาสกัดกาแฟเพียง 30 วินาที เหมาะสมในเชิงธุรกิจ
คลื่นลูกที่ 3 นิยมกาแฟ Slow Bar หรือการชงกาแฟ ที่ใช้เวลานานกว่า 2 นาที
ซึ่งก็มีอยู่หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นดริป, ไซฟอน หรือแม้แต่การสกัดเย็น หรือ Cold Brew
จุดเด่นของคลื่นลูกที่ 3 คือนักดื่มกาแฟเริ่มให้ความสำคัญกับ “ความประณีตในการชง”
รวมถึง “เมล็ดพิเศษ” ซึ่งจะเป็นเมล็ดกาแฟที่ได้คะแนน ตั้งแต่ 80 ขึ้นไป
จากคะแนนเต็ม 100 โดยเหล่าผู้เชี่ยวชาญที่เรียกว่า Q Grader
โดยหนึ่งในผู้ที่เกาะคลื่นกาแฟลูกที่ 3 และนำมาสร้างเป็นธุรกิจ คือคุณ W. James Freeman
แล้วเขาคือใคร ?
คุณ Freeman เป็นนักดนตรีคลาริเน็ต ชาวอเมริกัน ที่รักการดื่มกาแฟ
โดยเขาพบว่าร้านกาแฟแถวบ้านมีแต่กาแฟที่คั่วเข้มไป เขาจึงเริ่มลองคั่วกาแฟเองที่บ้าน
หลังจากนั้นมา เขาก็ได้เปิดโรงคั่วกาแฟในปี 2002 และได้นำกาแฟไปขายตามตลาดนัดใน San Francisco และ Oakland ซึ่งกาแฟของเขาได้กระแสตอบรับที่ดี จนในที่สุดเขาก็ได้เปิดร้านกาแฟชื่อว่า “Blue Bottle Coffee” สาขาแรกที่ Oakland
Blue Bottle Coffee กลายมาเป็นร้านกาแฟที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว จากการเป็นร้านแรก ๆ ที่ดึงการชงกาแฟแบบ Slow Bar มาเป็นจุดขาย ซึ่งในเวลาต่อมา กระแสร้านกาแฟ Slow Bar ก็ได้กลายมาเป็นเทรนด์ที่เติบโตขึ้น
สังเกตได้จาก Starbucks ที่ได้ส่ง Starbucks Reserve เพื่อเข้ามาทำธุรกิจนี้เช่นกัน
แล้วอะไรที่เป็นจุดเด่นของ Blue Bottle Coffee ?
ด้วยความที่ต้องการเจาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นคอกาแฟตัวยง
ในช่วงเริ่มต้น คุณ Freeman จึงมีเมนูเพียงกาแฟดำและกาแฟใส่นม
ไม่ได้ใส่เมนูแฟนซีเข้าไปด้วย และเน้นวิธีชงแบบ Slow Bar เป็นหลัก
คือเน้นไปที่รสชาติและคุณภาพกาแฟ และใช้เวลาชงแต่ละแก้วอย่างประณีต
โดยประณีตในที่นี้ก็เริ่มตั้งแต่ การคัดสรรเมล็ดกาแฟพิเศษจากหลายแหล่ง
รวมถึงความพิถีพิถันเรื่องความสดใหม่ของเมล็ดกาแฟคั่ว โดยจะคุมให้เมล็ดที่ใช้ชง
ผ่านการคั่วมาประมาณ 48 ชั่วโมง ซึ่งเขาถือว่าเป็นช่วงที่กาแฟจะให้รสชาติที่ดีที่สุด
หลังจากนั้นมา Blue Bottle Coffee ก็เริ่มมีเมล็ดกาแฟคั่วขาย ทั้งหน้าร้านและออนไลน์ผ่านระบบสมาชิก รวมถึงพัฒนาผลิตภัณฑ์กาแฟพร้อมดื่มแบบพรีเมียม เช่น Cold Brew กระป๋อง และกาแฟนมในบรรจุภัณฑ์กล่องนม
ต่อมา คุณ Freeman ก็ได้ขยายธุรกิจไปยังที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา และก็รุกเข้าสู่ต่างประเทศ
โดยจะเลือกจากประเทศที่มีวัฒนธรรมการดื่มกาแฟสอดคล้องกับแบรนด์อย่างค่อยเป็นค่อยไป
เริ่มจากประเทศญี่ปุ่น ที่การชงกาแฟแบบ Slow Bar ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน
รวมถึงเกาหลีใต้ ที่รักกาแฟดำเป็นชีวิตจิตใจ และยังมี Q Grader มากที่สุดในโลก
ในขณะที่ราคากาแฟต่อแก้วก็ค่อนข้างสูง และอยู่ในระดับเดียวกันกับ Starbucks และ Starbucks Reserve
จุดนี้ก็ได้สร้างความแตกต่างใหักับแบรนด์ Blue Bottle Coffee อย่างมาก
เพราะหากเรามาดูเชนกาแฟสตาร์ตอัปสมัยใหม่อย่าง Luckin Coffee จากประเทศจีน และ Flash Coffee จากประเทศอินโดนีเซีย แบรนด์เหล่านี้เน้นการขยายสาขาเพื่อชิงฐานลูกค้า เน้นความเร็วในการชง ราคาเข้าถึงง่าย และมีการดึงเทคโนโลยีมาเป็นจุดขายหลัก เช่น การสั่งเครื่องดื่มล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน
แต่ก็ไม่น่าเชื่อว่าความแตกต่างเหล่านี้ ได้กลายมาเป็นจุดแข็ง ที่ทำให้ Blue Bottle Coffee กลายมาเป็นบริษัทเนื้อหอมในสายตาของนักลงทุนระดับโลก
แล้วใครบ้างที่เข้ามาร่วมลงทุนใน Blue Bottle Coffee ?
เริ่มตั้งแต่นักลงทุนสถาบันอย่าง Fidelity Management และ Morgan Stanley
ซึ่งเป็นทีมที่ปรึกษาการลงทุนเดียวกันกับที่เลือกลงทุนใน Twitter และ Facebook
นอกจากนี้ก็ยังมี Venture Capital ชื่อดังอีกหลายแห่ง เช่น True Ventures, Index Ventures, Slow Ventures, M13 และ GV ที่ได้เข้าไปลงทุนในธุรกิจสตาร์ตอัปหลายแห่ง เช่น Uber, Snapchat, Pinterest, Slack, Robinhood, Roblox, Etsy และ Farfetch
ยังไม่หมดเพียงแค่นี้ เพราะนอกจากสถาบัน และบริษัทแล้ว
ก็ยังมีนักลงทุนรายบุคคล ซึ่งก็มีตั้งแต่
ผู้ร่วมก่อตั้ง Twitter อย่าง Jack Dorsey, Noah Glass, Biz Stone และ Evan Williams
ผู้ร่วมก่อตั้ง Instagram อย่าง Kevin Systrom และ Mike Krieger
ผู้ร่วมก่อตั้ง WordPress อย่าง Matt Mullenweg
ไปจนถึงบุคคลในวงการบันเทิงอย่าง Jared Leto, นักร้องนำวง U2 อย่าง Bono รวมถึงวง Linkin Park..
Blue Bottle Coffee เริ่มระดมทุนในระดับ Pre-seed และได้เงินทุนจาก VC ก้อนแรกในปี 2011
จนไต่ระดับไปที่ Series C ในปี 2015 รวมเงินลงทุนทั้งหมดกว่า 3,700 ล้านบาท
และในปี 2017 หรือ 4 ปีก่อน Blue Bottle Coffee ก็เติบโตไปอีกขั้น ในแบบที่เรียกว่าก้าวกระโดด
เพราะ Nestlé เจ้าของ Nescafé และ Nespresso ที่เรารู้จักกันดี ได้ประกาศเข้าซื้อกิจการของ Blue Bottle Coffee โดยการเข้าถือหุ้นกว่า 68% ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 15,730 ล้านบาท
ส่งผลให้มูลค่ากิจการของ Blue Bottle Coffee เพิ่มขึ้นเป็น 22,000 ล้านบาท
แล้วอะไรทำให้นักลงทุนที่เฟ้นหาสตาร์ตอัปดาวรุ่งเหล่านี้
สนใจเข้ามาลงทุนในธุรกิจกาแฟที่ขยายสาขาแบบค่อยเป็นค่อยไป
แถมชงกาแฟนานเกินกว่าแก้วละ 2 นาที ?
เรื่องนี้อาจเป็นเพราะร้าน Blue Bottle Coffee มีจุดเริ่มต้นใน San Francisco ซึ่งอยู่ในละแวกเดียวกันกับ Silicon Valley
ในขณะเดียวกัน ร้านกาแฟแห่งนี้ก็ได้นำเสนอความแปลกใหม่ ที่แตกต่างจากร้านกาแฟแบบดั้งเดิม
ซึ่งนอกจากจะสร้างแรงดึงดูดให้กับนักดื่มกาแฟแล้ว ก็ได้ทำให้นักลงทุนเข้ามาสนใจในธุรกิจเช่นกัน
แม้แต่ CEO ของ Twitter และ Square อย่าง Jack Dorsey
ยังเคยให้สัมภาษณ์ว่า “เริ่มต้นวันด้วยกาแฟที่ Blue Bottle Coffee”
เรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ ความเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ของคุณ Freeman ที่มีต่ออุตสาหกรรมร้านกาแฟ
ซึ่งก็น่าสนใจว่าทุกสิ่งที่กล่าวมานั้น ไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับ “ตัวเลขทางธุรกิจ” เลยแม้แต่นิดเดียว
ปัจจุบัน Blue Bottle Coffee มี 91 สาขา
กระจายสาขาอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และล่าสุดที่ฮ่องกง
โดยการขยายธุรกิจก็ยังเป็นไปในรูปแบบที่ไม่รีบเร่ง และคงความอนุรักษนิยม
และความมีเอกลักษณ์ของตัวเองไว้เหมือนเดิม..
ถึงตรงนี้ เรื่องราวของ Blue Bottle Coffee ถือเป็นอีกกรณีศึกษาที่น่าสนใจ
เพราะโมเดลธุรกิจของบริษัทแห่งนี้ ก็น่าจะสวนกระแสกับธุรกิจสตาร์ตอัปในยุคปัจจุบัน
ที่เต็มไปด้วยความเชื่อที่ว่า ต้องขยายให้เร็ว และต้องมีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย
ซึ่งจริง ๆ แล้ว ความมีแบรนด์ และความมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร
ก็อาจจะเป็นอีกมุม ที่สามารถสร้างมูลค่าให้กับธุรกิจได้ไม่แพ้การทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี
อย่างในกรณีนี้ ที่ Blue Bottle Coffee แม้จะต้องชงกาแฟนานเกินกว่า 2 นาทีต่อแก้ว
ก็ยังได้รับเงินระดมทุนมหาศาล และมีมูลค่าบริษัทมากถึง 2.2 หมื่นล้านบาท เลยทีเดียว..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่านและนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.baristainstitute.com/blog/karoliina-makela/june-2018/coffee-trends-move-waves
-https://www.cnbc.com/2019/07/12/blue-bottle-coffee-went-from-single-coffee-cart-to-700-million-brand.html
-https://www.crunchbase.com/organization/blue-bottle-coffee
-https://www.businessinsider.com.au/nestle-buys-blue-bottle-coffee-majorit-stake-bono-tony-hawk-2017-9
-https://thehustle.co/jack-dorsey-morning-routine?amp=1
-https://www.businessinsider.com/blue-bottle-coffee-raises-funds-2014-1
-https://www.techinasia.com/rocket-internetbacked-flash-coffee-lands-15m-hire-2000-employees
-https://www.crunchbase.com/funding_round/luckin-coffee-series-a--eadb0c4f
-https://techcrunch.com/2014/01/29/coffee/?guccounter=1&guce_referrer=aHR0cHM6Ly93d3cuZ29vZ2xlLmNvbS8&guce_referrer_sig=AQAAANpGsyvdE9FRtL6aQctwbY2DjzbxG7NzlyclT31Uxx_2Vcr2AEGaTih_aHAxkeyb3wb9HZin33oM-DCfUQg4xCS2chT3vokV4a9Q-mpeqPw8557TzrEJoBaMFW3eQugR0jbmkZ_khL9XvKK5Irou7RI6pTV-AZF3QaQdDDCJGVlm
starbucks coffee ideas 在 MONGABONG Youtube 的最佳解答
Not gonna lie, October has been extremely tough for me. Being coincidentally my birthday month, having expectations of it to be a good one has inevitably put more stress on my shoulders... Well, i'm just glad I can share these not-so-good moments with you guys, alongside the happy ones.
Ash has left us on the 13th October 2020. He passed on after being sick for 2.5 months (he wasn't eating, poo-ing and had to be force fed daily since then) and after countless of vet visits, blood tests and medication... he eventually passed on after being in the hospital for 5 days. He was 14.
You guys saw Ash through my VLOGs and witnessed his beautiful life, together. I thought I owed it to you to share this piece of news and bring you guys along to be by his side during his last moments. We miss him everyday, and I don't know if our hearts will feel the same again. Ash will always be my first kitty-love!
Stay safe, take care and I’ll see you in my next one ❤️
——————————————————————————————————————————————
Products mentioned:
? Charlotte Tilbury Hollywood Complexion Brush - https://www.sephora.sg/products/charlotte-tilbury-hollywood-complexion-brush
? Nesuto Japanese Goma Cake - https://www.facebook.com/dear.nesuto/
? Abib Gummy Sheet Mask Aqua Sticker - https://bit.ly/2IXY0bQ
? Dolce Gusto Genio S Touch (Silver) - https://www.dolce-gusto.com.sg/geniostouch-automatic-silver
? Starbucks Columbia Espresso Capsule - https://www.dolce-gusto.com.sg/starbucks-colombia-espresso
Places mentioned:
? Muyoo, 63 Jurong West Central 3, #01-K8 Jurong Point, Singapore 648331
? OSO Ristorante, 100 Peck Seah St, 27th Floor Oasia Hotel Downtown, Singapore 079333
? RAPPU Handroll Bar, 61 Tg Pagar Rd, Singapore 088482
? Skai Bar, 2 Stamford Rd, Singapore 178882
? ARUDIO, 11 Woodlands Cl, #09-30, Singapore 737853
? Apollo Coffee Bar, 65 Serangoon Garden Way, Singapore 555961
? Ajisen
? BE. Pilates, 14C Keong Saik Rd, Singapore 089121
FOLLOW ME
► Instagram: http://instagram.com/mongabong
► TikTok: www.tiktok.com/@mongabong
► Blog: www.mongabong.com
► Email: hello@mongabong.com
FAQ
Hello! My name is Mong Chin and I'm from sunny Singapore. I am 1.63m and I am Singaporean Chinese. I speak English, Mandarin and am currently learning Korean in my free time. I love all things beauty and fashion, and I also like to share my life here. I hope you guys enjoy watching my videos!
DISCLAIMER
This video is not sponsored. All content ideas and opinions are my own.
![post-title](https://i.ytimg.com/vi/4trcQ0WYRDc/hqdefault.jpg)
starbucks coffee ideas 在 MONGABONG Youtube 的最佳貼文
Documenting down my busy September in this vlog - fun shoots, meetings and more! Time passes so quickly when we’re having fun and I can’t believe we’re 2 months away from the end of 2020 ?
Also got my first Apple Watch so hit me up in the comments box if you have any tips ? Hope you guys had a great October! ?
——————————————————————————————————————————————
Products mentioned:
Apple Watch Series 6 Gold - https://g.co/kgs/mYLJDc
Abib Creme Coating Mask - Cooling Sensation https://shopee.sg/product/282218896/3643052030?smtt=0.282225716-1603023337.9
VDIVOV eye color bag palette - 03 electric eyes https://thefaceshop.com.sg/product/vdivov-eye-color-bag/
Starbucks Medium Roast Premium Instant Coffee Tin - https://s.lazada.sg/s.whFS
FOLLOW ME
► Instagram: http://instagram.com/mongabong
► TikTok: www.tiktok.com/@mongabong
► Blog: www.mongabong.com
► Email: hello@mongabong.com
FAQ
Hello! My name is Mong Chin and I'm from sunny Singapore. I am 1.63m and I am Singaporean Chinese. I speak English, Mandarin and am currently learning Korean in my free time. I love all things beauty and fashion, and I also like to share my life here. I hope you guys enjoy watching my videos!
DISCLAIMER
This video is not sponsored. All content ideas and opinions are my own, and I do not make money out of any purchases.
![post-title](https://i.ytimg.com/vi/p7DH9NhuP-M/hqdefault.jpg)