Love you to Himalayas
Namaste Annapurna Base Camp
เนปาล...นานมาแล้ว
.
เรื่องเล่าบทสุดท้ายของการเดินทางสู่หิมาลัย
การเดินทางที่แสนเหนื่อยและคุ้มค่าที่สุดในชีวิต
.
----------------------------------------------------
.
หลังจากออกจาก Poon Hill เราก็ที่จะเริ่มเข้าสู่เขตตีนเขาของหิมาลัย ทางเดินเริ่มมีหลากหลายระดับ และท้าทายความอดทนของร่างกายมากขึ้นเรื่อยๆ ปอดและหัวใจของเราทำงานอย่างหนักหน่วง ช่วงเวลาที่เสียงของลมหายใจดังชัดมาก เมื่อเริ่มเข้าใกล้เทือกเขาหิมาลัย ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของชาวเนปาล ที่เชื่อว่ายอดมัจฉาปูชเรเป็นที่ประทับของพระแม่อุมาเทวี เทพสตรีในศาสนาฮินดูที่ชาวเนปาลให้ความนับถืออย่างมาก ดังนั้นการเดินทางเข้าเขตศักดิ์สิทธิ์นี้นั้น ทำให้อาหารหลักในแต่ละมื้อของเราจะมีเพียงแค่ผักพื้นบ้าน เนื้อสัตว์จะมีเพียงปลาและไข่เท่านั้น จะไม่สามารถนำเนื้อสัตว์ใหญ่เข้าเขตนี้ได้ พวกเราที่พกมาม่าหรือโจ๊กคัพรสไก่มาด้วยก็ต้องระบายเสบียงกันให้หมดก่อน และข้อห้ามเด็ดขาดที่หัวหน้าไกด์บอกกับเราคือ ระหว่างทางเดินห้ามทิ้งขยะลงพื้นเรี่ยราด ห้ามถ่มน้ำลายลงตามพื้นดิน เหล่าผู้ชายทั้งหลายต้องทำธุระเป็นที่ในห้องน้ำเท่านั้น เพราะเชื่อว่าจะทำให้การเดินทางไม่ราบรื่น เมื่อเราทุกคนรับรู้อย่างนั้น แน่นอนเราปฏิบัติตามตามคำบอกของบักตะ เราเคารพธรรมชาติ ความสวยงามขนาดนี้ไม่ควรแปดเปื้อนจากเศษขยะของผู้มาเยือนอย่างเรา
.
เราต้องใช้เวลาเดินอีก 3 วันที่เราจะถึง Base Camp มาถึงจุดที่ร่างกายเริ่มออกอาการงอแง ไม่เคยคิดว่าแค่การก้าวขาไปข้างหน้ามันจะยากเย็นได้ขนาดนี้ ช่วงวัดใจที่แท้จริงมาถึงแล้ว เหนื่อยจนแทบไม่เหลือเรี่ยวแรง ใจที่ว่าแข็งก็ยังกลายเป็นความลังเลว่าจะพอแล้วหรือไปต่อเพราะลิมิตของร่างกายมันฟ้อง เท้าที่ก้าวไปพร้อมกับความคิดที่ตีกันในหัวตัวเองไม่หยุด ถ้าขาดเพื่อนกับไกด์ที่คอยเชียร์ให้กำลังใจเรื่อยๆ ไม่แน่เราอาจถอดใจจากหิมาลัยไปแล้วก็ได้ ระหว่างทางเราก็จะได้เจอเพื่อนร่วมทางกลุ่มอื่นๆ และนักเดินทางที่กลับลงมาจากหิมาลัย เราเดินมาเจอกับชาวต่างชาติที่กำลังเดินกลับ เดาว่าหน้าตาเราคงจะเหยเกและดูจะขาดใจเอามากๆ จนผู้หญิงที่กำลังจะเดินผ่านเราไปหยุดแล้วเอามือสองข้างจับที่บ่าของเราแล้วพูดเป็นกำลังใจสั้นๆ ว่า “Slow and Steady” และเดินจากไปอย่างรวดเร็ว ถึงจะชื้นใจขึ้นมาหน่อย แต่สุดแล้วเราสองคนเป็นขาประจำเดินรั้งท้ายสุดอยู่ดี เรามาถึงที่หมายก็ใกล้หมดวันเต็มแก่ แน่ละเราจะถึงเป็นกลุ่มสุดท้ายตลอด ยิ่งตกดึกอากาศยิ่งเบาบางและเย็นจัด อาหารเย็นที่ทุกคนพร้อมหน้าพร้อมกันตากันอย่างคึกครื้นเวลานี้ค่อนข้างเงียบ เราแทบกินอะไรไม่ลงเลย เพราะความล้าที่สะสม เราต้องอาศัยมาม่ารสต้มยำกุ้ง (ไกด์บอกว่าพกขึ้นมาได้) ประโลมชีวิตให้ได้มีรสชาติบ้างหน่อย
เมื่อจบมื้อเย็นทุกคนแจกจ่ายยาแก้ปวดให้กันแล้วต่างแยกย้ายไปนอน ไม่มีเวลามาจอแจสนุกสนานเหมือนวันแรกๆ เพราะต้องนอนเอาแรงกลับมาให้เยอะที่สุด สำหรับวันรุ่งขึ้น
.
The Mountain Sound
.
เราตื่นกันแต่เช้าตรู่ เดินออกมาจากห้องแล้วสิ่งแรกที่ปะทะสายตาคือหิมาลัยที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า เราทุกคนมีสีหน้าเดียวกันคือสองตาวาวเป็นประกาย ใกล้แล้ว ใกล้มากๆ อีกอึดใจเดียวจะถึงแล้ว วันนี้คือวันสุดท้ายที่เราจะถึง Base Camp เราเดินผ่านลำธารเล็กๆ ข้ามเนินเขา และเลียบแม่น้ำที่เกิดจากการละลายของหิมะบนยอดเขา วิวสองข้างทางกลายเป็นหินผา ทุ่งหญ้าสีเหลือง เราแทบไม่เห็นความเขียวขจีเหมือนกับก่อนหน้านี้แล้วคงเพราะด้วยอุณหภูมิที่ลดลงต่ำของอากาศบริเวณตีนเขา ความซับซ้อน และชันของแต่ละเนิน บวกกับอากาศที่เย็นทำให้เราเดินช้าลงยิ่งกว่าเดิม จนทิ้งท้ายจากคนอื่นๆ เหลือแค่เรากับเป็ปและบอลลี่กันแค่สามคน หมอกเริ่มลอยต่ำจนแทบไม่เห็นข้างทางและทางข้างหน้าเท่าไหร่แล้ว บอลลี่กำชับให้เรารีบทำเวลาเพราะสภาพอากาศดูไม่ค่อยน่าไว้วางใจ เราอาจจะเจอกับพายุหิมะได้ เราเดินไปข้างหน้าอย่างไม่รู้ปลายทางเพราะหมอกที่หนาขึ้นเรื่อยๆ จมูกเริ่มแสบจนต้องหายใจทางปากช่วย ขอบตาและหน้าชาไปด้วยความเย็น พอเดินไปได้สักพักเราก็รู้สึกเหมือนหยดน้ำเล็กๆ ตกลงมาบนหน้า ฝนโปรยปรายลงมาแล้ว เราพยายามรีบเดินเท่าที่เท้าจะก้าวไหว ตอนนี้ละอองฝนเปลี่ยนไปเป็นก้อนน้ำแข็งจิ๋วๆ นิ่มๆ เราหันไปถามบอลลี่ด้วยความตื่นเต้นว่านี่คือหิมะใช่ไหม บอลลี่ยิ้มและบอกว่าไม่ใช่ นี่คือลูกเห็บจิ๋วๆ ถ้าเป็นหิมะมันจะลอยพลิ้วอยู่ในอากาศ พร้อมกับทำมือประกอบให้เราดู ว่าอย่างนั้นแล้วเราก็เดินกันต่อ อากาศเริ่มดูท่าจะแย่ลงสองข้างทางเปลี่ยนเป็นสีขาวโพลน หมอกทึบจนมองไม่เห็นทางข้างหน้า เราเปิดเพลง Your Bone ฟังซ้ำๆๆ พยายามให้มีสมาธิอยู่กับลมหายใจมากที่สุด และอย่างที่บอกเวลานั้นทำนองและเนื้อหาของ Of Monster and Men เป็นอะไรที่เข้ากับบรรยากาศที่สุดแล้ว ทำนองของกลองเต้นเป็นจังหวะเดียวกับเสียงหัวใจของเราในตอนนั้น
.
in the spring we made a boat
out of feathers, out of bones.
we set fire to our homes,
walking barefoot in the snow.
.
และแล้วเกร็ดน้ำแข็งสีขาวเล็กๆ ก็ปลิวลงมาผ่านหน้าเราไป เรายืนมือออกมาเกร็ดหิมะค่อยๆ ร่วงลงบนมือเราอย่างช้าๆ เหมือนกับภาพสโลว์ในฉากหนัง เราตะโกนถามบอลลี่ทันที ว่าใช่ไหม ใช่รึยัง บอลลิ่ยิ้มให้เหมือนเดิมแล้วพยักหน้า เราหันไปมองหน้าเป็ปแล้วตื่นเต้นกันสองคน แต่สิ่งที่เป็ปตื่นเต้นไม่ใช่แค่หิมะ แต่เป็นป้ายไม้ที่ตั้งอยู่กลางหิมะเขียนว่า "Namaste Annapurna Base Camp Warmly Welcome to all internal & External Visitors" เป็นการดีใจที่สุดแต่ไม่มีเสียง ฮ่าๆ ถึงแล้ววววว เรามาถึงแล้วในที่สุดดดด เราขอบอลลี่หยุดถ่ายรูปสักพักกับหิมะแรกของวัน และถ่ายรูปคู่กับป้าย ไม่นานหิมะก็ดูท่าจะตกหนักขึ้น เราเลยต้องรีบเดินเข้าเบสแคมป์ เราเห็นเหล่าลูกหาบของกลุ่มเรายืนโบกมือให้อยู่หน้าที่พัก เราเดินผ่านซุ้มโค้งที่ประดับด้วยใบไม้แห้งๆ กับธงมนต์ เหมือนเป็นประตูชัยของการเดินทางครั้งนี้ ยิ้มออกได้ในที่สุดเมื่อก้าวพ้นบันไดขั้นสุดท้าย พร้อมเสียงปรบมือของลูกหาบและไกด์ที่ยืนรอ เราหันไปขอบคุณบอลลี่ และเข้าไปพักที่โถงกลาง ที่เป็นเหมือนห้องกินข้าว บนนี้ไม่มีเครื่องให้ความอบอุ่นเพราะอุณหภูมิที่ติดลบของที่นี่ทำให้การจุดไฟจะยิ่งทำให้อากาศบางลงกว่าเดิม แม้ตัวจะเย็นเฉียบแต่หัวใจเรากลับอุ่นไปด้วยไฟจุดเล็กๆ
.
troubled spirits on my chest where they laid to rest.
the birds all left my tall friend as your body hit the sand.
million stars up in the sky formed a tigers eye
that looked down on my face, out of time and out of place.
so hold on, hold on to what we are,
hold on to your heart.
.
บรรยากาศของอาหารเย็นเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง ทุกคนตื่นเต้นกับการพิชิต ABC ได้สำเร็จ และที่สำคัญสมาชิกทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า ปลาทูต้มหวานที่ส่งตรงมาจากบ้านเพื่อนเราที่ชุมพรกลายเป็นอาหารแสนอร่อยและหรูหราที่สุดบนหิมาลัย เราแบ่งปลาทูแพ็คที่เหลือให้กับไกด์ ลูกหาบ เจ้าของเบสแคมป์ และกลุ่มพี่ๆ คนไทยโต๊ะข้างๆ ที่ออกเดินทางมาพร้อมๆ กันกับกลุ่มของเรา เราแลกเปลี่ยนพูดคุยกันอย่างสนิทสนม คงเป็นเพราะประสบการณ์ร่วมของการเดินทางครั้งนี้ แต่ละคนออกคุยอย่างออกรสกันสนุกสนานเพราะเหมือนเพิ่งรอดตายมาได้สดๆ ร้อนๆ เมื่อพอหอมปากหอมคอกันแล้ว พวกเราก็ต่างบอกลาและแยกย้ายกันเข้าห้องนอน เพราะพรุ่งนี้เป็นวันสำคัญที่ต้องตื่นเช้ามาดูพระอาทิตย์ขึ้น
.
Love You To Himalayas
.
หมดพายุจากเมื่อวานแล้วหลงเหลือแต่กองหิมะสีขาวโพลน ที่ตอนนี้ปกคลุมไปทั่วทุกที่ ยอดเขาที่เราหมายใจเอาไว้อยู่เบื้องหน้าเราแล้ว แม้จะเช้าแล้วแต่ยังไม่มีทีท่าว่าจะเห็นแสงสว่างจากพระอาทิตย์ เพราะเมฆหนาสีเทา ภาพบรรยากาศเลยเหมือนถูกย้อมด้วยสีฟ้าหม่นๆ เราซึบซับภาพตรงหน้าไว้นานเท่าที่ร่างกายจะทนความหนาวได้ ใช้เวลาอยู่กับปัจจุบันในขณะนั้นอย่างตั้งใจ เพราะไม่มีสักนาทีเลยที่อยากจะละสายตาไปเลย หิมาลัยอยู่ตรงนั้น หิมาลัยอันทรงสง่า แม้จะผ่านกาลเวลาเนิ่นนานปีแล้วปีเล่าก็ยังคงงดงามตลอดมาและตลอดไปเท่าอายุขัยของโลกใบนี้
.
เราใช้เวลาเสพสมกับรางวัลตรงหน้าของเราอยู่นาน เรากลับเข้ามาที่ห้องโถง นั่งลงและเขียนโปสการ์ดที่ติดขึ้นมาด้วย ใบนึงถึงตัวเองและที่เหลือถึงเพื่อนสนิท เมื่อเขียนเสร็จเราถามกับเจ้าของเบสแคมป์ว่าจะรบกวนส่งโปสการ์ดนี้ให้เราได้ไหม เพราะเราอยากได้ตราแสตมป์ของ ABC เค้ามองหน้าเราแล้วอมยิ้มเล็กๆ พร้อมกับขอโปสการ์ดไปและแสตมป์ตรา ABC ลงวันที่ 12 April 2018 ลงไป ดีใจมากกกกก ขอบคุณเค้าแล้วยิ้มไม่หยุดเลย (หลังจากนั้นอีกสามอาทิตย์โปสการ์ดก็ถึงมือทุกคน) เราทานอาหารเช้ากันพร้อมหน้าพร้อมตา คุยเล่นกันตามประสา และแน่นอนมื้อนั้นเป็นอาหารเช้าที่วิวสวยที่สุดในชีวิต ถึงช่วงสายๆ เราเตรียมตัวและเตรียมใจกันบอกลาหิมาลัย เพื่อจะเดินกลับแล้ว ยากที่จะบอกลาเหมือนกัน เหมือนยังใช้เวลาไม่พอ เสพยังไม่เต็มอิ่ม แต่เราคิดว่านั่นเองที่ทำให้หิมาลัยงดงามตรึงอยู่ในหัวใจเราจนถึงทุกวันนี้
.
ขาเดินกลับเป็นอะไรที่ทรหดมาก วันขาลงจาก ABC เราต้องรวบระยะทางของขามา 2 วันให้เหลือวันเดียว แทบตายแบบตายของจริง เริ่มด้วยอากาศหนาวสุดๆ พอกลับลงมาก็เจอกับอากาศร้อน และพลาดไม่ได้เลยคือตามมาด้วยฝน และเพราะทางลาดลงทำให้หัวเข่าเราเริ่มเจ็บแปลบ จากที่เดินช้ามากๆ อยู่แล้วคราวนี้ยิ่งไปกันใหญ่ รั้งท้ายห่างจากคนอื่นๆ ไกลขึ้นเรื่อยๆ เราเดินทำเวลากันอย่างเอาเป็นเอาตาย ฟ้าค่อยๆ มืดลงจนพวกเราที่รั้งท้ายเริ่มกังวล ทั้งไม่แน่ใจว่าระยะทางอีกไกลแค่ไหนและไหนจะทางลาดชันลื่นๆ อีก ในที่สุดความมืดครอบคลุมจนเรามองไม่เห็นอะไรอีกเลย มีเพียงแค่ไฟฉายดวงเดียวของบอลลี่เท่านั้นที่นำทางเรา ตอนนั้นมีแค่เสียงลมหายใจและฝนที่โปรยปรายลงมาไม่หยุด เราก้มหน้าก้มตาเดินจ้ำอ้าวเพื่อไปให้ถึงบ้านพักเร็วที่สุด เราเดินกันไปอย่างไม่รู้เวลาร่ำเวลา จนมีเงาลางๆ ข้างหน้าเราเห็นเหมือนมีคนกำลังเดินสวนมา พวกเราต่างคิดในใจกันว่าคงจะเป็นชาวบ้าน จนเมื่อใกล้ขึ้นเรื่อยๆ แล้วฝั่งนั้นทักมาว่า นมัสเต เราเงยหน้าขึ้นมองพร้อมกัน ปรับสายตาให้โฟกัส แล้วก็ร้องดีใจออกมาว่า พี่ตี๋!!! พี่ตี๋คือพี่แก๊งลูกหาบของกลุ่มเราเอง เค้าเดินมารับพวกเราเพราะเริ่มกังวลว่ายังมาไม่ถึงสักที ดีใจจนน้ำตาไหลเลย พี่ตี๋คุยกับบอลลี่แล้วบอกว่าอีกประมาณ 15 นาทีก็จะถึงจะบ้านพักแล้ว เป็นเวลาเกือบสามทุ่มที่เรามาถึงเป็นกลุ่มสุดท้าย บักตะที่รอพวกเราอยู่พาไปยังห้องพักและพาไปกินข้าว แต่พวกเราเหนื่อยและล้ากันเกินกว่าจะกินอะไรลง เลยขอแค่น้ำขิงผสมน้ำผึ้ง แล้วเข้านอนเลย
.
ในตอนเช้าเราเลยปรึกษากันในกลุ่มว่าอาจจะเดินกลับอย่างที่เดินขามาไม่ไหว เพราะนอกจากเราสองคนกันเอง คนอื่นๆ เองก็เริ่มล้าและเจ็บหัวเข่าตามๆ กันแล้ว พวกเราเลยคุยกับบักตะถึงว่าจุดไหนที่รถเข้าถึง ที่ใกล้มากที่สุด เราจะไปที่นั่นและนั่งรถยิงยาวเข้าไปที่โพคาราเลย ข่าวดีคือเดินเพียง 1 วันเท่านั้น เท่ากับว่าเย็นนี้เราไปถึงหมู่บ้านที่ว่า และเช้าวันถัดไปก็เดินต่ออีกนิดนึงไปขึ้นรถกลับ เรี่ยวแรงเริ่มกลับมาฮึดอีกครั้งพอรู้ว่าเป็นวันสุดท้ายแล้ว เรามาถึงหมู่บ้านที่จะเป็นที่พักคืนสุดท้ายของการเดินประมาณเกือบ 4 โมง ตอนนี้ทุกคนดูจะสดใสที่จะได้รู้ว่าจะมีรถมารับในวันพรุ่งนี้รวมถึงเราด้วย ที่นี่พอมีสัญญาณโทรศัพท์อยู่หน่อยทุกคนเลยรีบแยกยัายกันไปโทรหาที่บ้าน เพราะขาดการติดต่อไปหลายวัน จากนั้นทุกคนก็มานั่งรวมตัวกันที่ห้องเดียว แล้วคุยเกี่ยวกับทริปนี้ จำรายละเอียดไม่ได้แล้วว่าเรื่องอะไรบ้าง แต่จำได้ว่าหัวเราะกันท้องแข็ง คุยกันไป เราเริ่มได้ยินเสียงจากด้านนอกดังเข้ามาสู้เสียงในห้องเรา พวกเราเปิดประตูออกไป เหล่าไกด์และลูกหาบของเราและกลุ่มอื่นกำลังนั่งลอมวงร้องเพลงสังสรรค์กันอย่างสนุกสนาน เราฉุกคิดขึ้นได้ว่าวันนี้เป็นวันที่ 14 เมษา วันขึ้นปีใหม่ของชาวเนปาล ทุกคนร้องเพลง ปรบมือเป็นจังหวะแล้วออกมาเต้นกันอย่างมีความสุข พวกเราเองก็ไปร่วมวงด้วยอยู่สักพักนึงพร้อมกับอวยพรสวัสดีปีใหม่กับผู้นำทางของเรา เป็นบรรยากาศที่เรียบง่าย อบอุ่น และน่ารักจนเราอดไม่ได้ที่จะยิ้มและอบอุ่นหัวใจตามไปด้วย
.
วันรุ่งขึ้นเราขึ้นรถกลับมาพักที่โพคาราหนึ่งคืน และกลับมายังกาฐมาณฑุอีกหนึ่งคืนก่อนบินกลับบ้านในวันถัดมา จู่ๆ เวลาก็ผ่านไปไวอย่างน่าเหลือเชื่อ เราพูดกับตัวเองในวันนั้นว่าโชคดีจริงๆ สำหรับการตัดสินใจออกเดินทางในครั้งนี้ แม้จะเหนื่อยที่สุดในชีวิต แต่มันก็คุ้มค่าที่สุดในชีวิตเช่นกัน เราทิ้งความคิดถึงเอาไว้ที่นั่น เราเก็บความทรงจำที่ดีที่สุดกลับมา
.
การเดินทางที่ดีคือการเดินทางที่ทำให้กาลเวลาได้ทำงานอย่างต่อเนื่อง ทริปนี้เป็นทริปที่เรายังคิดถึงอยู่เนืองๆ คุยกี่ครั้งกี่ทีก็ไม่เบื่อ บอกทุกคนที่มีโอกาสให้ได้ลองไป ลองไปเห็นด้วยตา ไปค้นพบหิมาลัยของตัวเอง
.
จากวันนั้นเราค้นพบหิมาลัยของเราแล้ว งดงาม เรียบง่าย
และไม่ว่าชีวิตจะเป็นเช่นไร ย่อมมีความงามซ่อนอยู่ ณ ที่ใดสักแห่งเสมอ
.
Love you to Himalayas,
Mars
.
#ABOVETHEMARS
#NEPAL
同時也有176部Youtube影片,追蹤數超過7萬的網紅王大喜,也在其Youtube影片中提到,2021/09/24生命創作 孟婆在線3-1、”孟姜女與蚩尤” /.紀實型野史 王大喜(Rasta Wang) *參考(背景影片原封不動): 2021/09/18(紀實型雜記) (房屋淨化工作紀實; House cleansing work documentary) 現實中的清醒夢 ”DNA光...
the birds 3 在 SABAH, Malaysian Borneo Facebook 的最佳解答
With the sound of water splashing, birds chirping and the breezy wind, Nohutu Ecotourism is a perfect destination to disconnect from the rest of the world and focus on the things that really matter.
📸 IG: @kasmir_ms
📍 Nohutu Ecotourism, Kg Melangkap, Kota Belud
#sabah #borneo #malaysia #tourism #photooftheday #nature #fun #photography #beautiful #enchantingsabah #travellater #traveltomorrow #river
the birds 3 在 Robert Wun Facebook 的最佳貼文
🏹 The Archer
From sketches of imaginary weapons based on botanical elements, to the incredible team of Zhong Lin across oceans executing this moment to perfection.
@johnyuyi in Birds of Paradise Armour photograph by @zhonglin_ for @theperfectmagazine and Thank you again @kegrand ❣️
#robertwun •
the birds 3 在 王大喜 Youtube 的精選貼文
2021/09/24生命創作
孟婆在線3-1、”孟姜女與蚩尤”
/.紀實型野史 王大喜(Rasta Wang)
*參考(背景影片原封不動):
2021/09/18(紀實型雜記)
(房屋淨化工作紀實; House cleansing work documentary)
現實中的清醒夢
”DNA光弦運動、白洞與原創力” ;
Lucid dream In reality
, ”Arch、white hole、Creativity”
/.原著與紀實 王大喜(Rasta Wang)
https://youtu.be/9zHZ4wMYY5E
*今日章節;Daily Chapter:
「你施捨的時候,不要叫左手知道右手所做的, 要叫你施捨的事行在暗中。你父在暗中察看,必然報答你 。」 你們禱告,不可像外邦人,用許多重複話,他們以為話多了必蒙垂聽。 你們不可效法他們;因為你們沒有祈求以先,你們所需用的,你們的父早已知道了。 願你的國降臨; 願你的旨意行在地上, 如同行在天上。 我們日用的飲食,今日賜給我們。 免我們的債, 如同我們免了人的債。 不叫我們遇見試探; 救我們脫離凶惡 。 因為國度、權柄、榮耀,全是你的, 直到永遠。阿們 ! 你禁食的時候,要梳頭洗臉, 不叫人看出你禁食來,只叫你暗中的父看見;你父在暗中察看,必然報答你。」 「眼睛就是身上的燈。你的眼睛若瞭亮,全身就光明; 你的眼睛若昏花,全身就黑暗。你裏頭的光若黑暗了,那黑暗是何等大呢!」 「所以我告訴你們,不要為生命憂慮吃甚麼,喝甚麼;為身體憂慮穿甚麼。生命不勝於飲食嗎?身體不勝於衣裳嗎? 你們看那天上的飛鳥,也不種,也不收,也不積蓄在倉裏,你們的天父尚且養活牠。你們不比飛鳥貴重得多嗎? 這都是外邦人所求的。你們需用的這一切東西,你們的天父是知道的。 你們要先求他的國和他的義,這些東西都要加給你們了。」
馬太福音 6:3-4, 7-8, 10-13, 17-18, 22-23, 25-26, 32-33 CUNP-神
「But when thou doest alms, let not thy left hand know what thy right hand doeth: that thine alms may be in secret: and thy Father who seeth in secret shall recompense thee. And in praying use not vain repetitions, as the Gentiles do: for they think that they shall be heard for their much speaking. Be not therefore like unto them: for your Father knoweth what things ye have need of, before ye ask him. Thy kingdom come. Thy will be done, as in heaven, so on earth. Give us this day our daily bread. And forgive us our debts, as we also have forgiven our debtors. And bring us not into temptation, but deliver us from the evil one. But thou, when thou fastest, anoint thy head, and wash thy face; that thou be not seen of men to fast, but of thy Father who is in secret: and thy Father, who seeth in secret, shall recompense thee. The lamp of the body is the eye: if therefore thine eye be single, thy whole body shall be full of light. But if thine eye be evil, thy whole body shall be full of darkness. If therefore the light that is in thee be darkness, how great is the darkness! Therefore I say unto you, Be not anxious for your life, what ye shall eat, or what ye shall drink; nor yet for your body, what ye shall put on. Is not the life more than the food, and the body than the raiment? Behold the birds of the heaven, that they sow not, neither do they reap, nor gather into barns; and your heavenly Father feedeth them. Are not ye of much more value than they? For after all these things do the Gentiles seek; for your heavenly Father knoweth that ye have need of all these things. But seek ye first his kingdom, and his righteousness; and all these things shall be added unto you.」
Matthew 6:3-4, 7-8, 10-13, 17-18, 22-23, 25-26, 32-33 ASV
(目前專注於療癒及生命紀錄,也恢復線上諮詢及捐款,如需手術請至以下官網詳閱。☀️🙏)
Donation for us as below(樂捐):
台幣帳號:
戶名:王大囍
銀行代號:808
銀行名稱:玉山銀行內湖分行
帳號:0462968127363
台幣帳號:
銀行代號:048
銀行名稱:王道銀行
帳號:01000115473288
美元帳號:
戶名:王大囍
E.SUN Multi-Currency Deposit
存戶帳號:0015879086033
比特幣戶頭存戶帳號bitcoincash:
qz69f84z8wtaczaec3c54c8eal8gh4u50v724sgyve
Dream Walker: RastaWang.com
(夢行者,™,醒夢人)
the birds 3 在 派蒂·三多羅Patty Santoro Youtube 的最佳貼文
I found this beautiful scenic spot near the National palace museum in Shilin. It is really worth the visit. I usually come here as early as 6:00 in the morning. Just gazing at the lake while listening the sound of birds chirping . This is a perfect spot for relaxing and staying in touch with nature.
You can visit here:
Address: Sec 2, Zhi Shan Rd, Shilin District, Taipei City, 111
the birds 3 在 探險威狼 Wilang-Explorer Youtube 的最讚貼文
大家好,我是威狼
今天要介紹的秘境是『列尼部落』
上一集介紹『列尼瀑布』
今天我們終於跟隨崙山部落耆老
走回他們的舊部落
發現了日治時期建造的吊橋
更發現了在半山腰上五個足球場大的高山盆地
走進盆地有如走進阿波卡獵逃的電影場景了
路上到處可見的足跡
可見這邊的生態非常的豐富
我們也到舊部落整理家屋
發現這邊的家屋保存算完整也非常宏偉
也有一些遺留下來的古蹟
重點是我們發現黑熊爬樹的爪痕
事實證明黑熊是會爬樹的
回家的路非常的感動
除了看見老人家對部落的想念
也看見年輕人完成長輩的期許回到舊部落
很榮幸能跟崙山部落族人一起回到舊部落
『列尼部落』科普時間:
崙山村大部份的布農族
經過的路線
多半是於翻越中央山脈之後
到達哈哈米
(今日的布列尼山
上方步行四小時後可到達溫泉
而對面的山坡就是哈哈米
和太平入山管制站上方的
哈哈米不同)
後又搬至列尼
由於此處是山區
難得一見的大平原
相當於崙山村的一倍半有餘
成了大家途中最大的聚落
後因人口漸多
部份轉移至草坪溪下方的
卡卡耳、尼尼安凡、巴支念
及河對岸的馬忽蘭
後經日人的撫蕃政策
而集中至崙山村
再加上馬達眾落部份移民
『列尼部落』怎麼去:
因為本次路線為部落尋根道路
必須經過(崙山部落族人同意,使得進入山中拍攝)
未來崙山部落也會開發生態旅遊
大家再多多支持
座標:23.494830, 121.248214
===========================================
Wilang的社群連結:
Instagram:
https://www.instagram.com/wilang_explorer/
Facebook:
https://www.facebook.com/%E6%8E%A2%E9%9A%AA%E5%A8%81%E6%9C%97-100459841997534/about?view_public_for=100459841997534
拍攝工具⬇︎
相機:Iphone 11,GoPro 9
麥克風:GoPro 9媒體模組
空拍機:Dji Mini
剪輯工具⬇︎
imovie
=============================================
Music:
1.Fly away – Rexlambo (No Copyright Music).mp3
2.DAH Trump - Hanakotoba (花言葉)
3.[Non Copyrighted Music] @Dj Quads Official - Birds And The Bees [Chill
Hop]
4.Cinematic Inspiring Music (No Copyright) - Flowing Energy by Keys Of
Moon
5.🗻 Chill Oriental Lofi (Music For Videos) - Shizuka by AERØHEAD 🇺🇸