關於 thinktalkwithsuthichai ，我們在網路上蒐集到這些相關的討論、資訊與評價

ได้รับเกียรติจากคุณ สุทธิชัย หยุ่น (นักข่าวอาวุโส ที่ผมติดตามมาตั้งแต่เด็กๆ สมัยสงครามอ่าวเปอร์เซียเลยครับ) สัมภาษณ์ออนไลน์เกี่ยวกับเรื่อง มาตรการล็อคดาวน์ของรัฐบาล กับสถานการณ์โควิด-19 ว่าได้ผล ไม่ได้ผล อย่างไรบ้าง

ซึ่งผมก็วิพากษ์วิจารณ์ไปอย่างเต็มที่เลยครับ ไม่ว่าจะเป็นที่ เราจะเชื่อถือตัวเลขผู้ติดเชื้อจาก ศบค. ได้ยังไง ว่ามันมีแค่นี้จริง , การล็อคดาวน์ โดยไม่ระดมตรวจหาผู้ติดเชื้อ จะลดจำนวนผู้ติดเชื้อได้จริงหรือ และเราไม่ได้รับคำชี้แจงจาก ศบค. เลยว่า จะมีแนวทางการประเมินอย่างไร ว่าล็อคดาวน์ประสบความสำเร็จ มี KPI ไหนที่บอกว่าจะผ่อนคลายได้

และสุดท้าย ผมก็ให้คำแนะนำไปอย่างละเอียด เป็นขั้นตอนเลยว่า จริงๆ แล้วสิ่งที่รัฐบาลควรจะต้องทำ คืออะไรบ้างนะครับ พูดย่อๆ ก็คือ

1. ต้องยอมรับความจริงได้แล้วว่า ตอนนี้ระบบสาธารณสุขของไทยเรากำลังล่มสลาย และต้องปรับมาตรการต่างๆ เพื่อรักษาระบบสาธารณสุข

โดยยอมรับให้ "ชุดตรวจแอนติเจนแบบใช้ที่บ้าน และการกับตัวที่บ้าน" เป็นแนวทางหลักในการรับมือกับโรค ไม่ใช่แค่แนวทางเสริมอย่างที่ใช้ในตอนนี้

แล้วปลดล็อคในเรื่องของการจ่ายยาต้านไวรัสฟาวิพิราเวียร์ ให้สามารถแจกจ่ายกับทุกคนในประเทศที่เป็นผู้ติดเชื้อ ไม่ใช่รอจนกระทั่งอาการหนักแล้วค่อยให้ ... รวมถึงการถ่ายทอดความรู้ให้บริษัทเอกชนร่วมผลิตยานี้ด้วย ไม่ใช่แค่ให้องค์การเภสัชผลิตได้แค่ทีเดียว

2. ต้องยอมรับความจริงว่า วัคซีนของเรามีขาดแคลน และจำเป็นต้องเลือกใช้ รวมทั้งเสียสละวัคซีนให้เหมาะสมกับกลุ่มของผู้ที่จะรับการฉีด

แทนที่จะยังหมกมุ่น ดราม่า กับจำนวนผู้ติดเชื้อ ก็ควรจะเน้นแต่จำนวนผู้เสียชีวิตและผู้ที่ป่วยหนัก ซึ่งแทบทั้งนั้นจะเป็นผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประจำตัวต่างๆ

แปลว่าเราควรจะเอาวัคซีน astrazeneca ที่เรามีอยู่อย่างจำกัด มาเร่งฉีดให้กับคนกลุ่มเสี่ยงพวกนี้ (ซึ่งปัจจุบันฉีดไปได้น้อยมาก) เพื่อลดความสูญเสียในเรื่องของชีวิตให้ได้ก่อน ไม่ควรใช้วัคซีนสูตรไขว้พิศดาร ที่เอาวัคซีนซิโนแวคมาเป็นเข็มที่ 1 เพราะจะทำให้ไม่สามารถป้องกันความสูญเสียได้ทันท่วงที ในช่วงที่มีการระบาดหนักขนาดนี้

ส่วนวัคซีนซิโนแวคนั้น ควรจะทำความเข้าใจกับประชาชนทั่วไป ที่ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงว่า เราจำเป็นต้องเสียสละ ระดมฉีดวัคซีนตัวนี้ไปก่อน และสัญญาที่จะหาวัคซีนเข็มที่ 3 ที่ดีกว่า มาให้บูสต์ในอนาคต ซึ่งอาจจะเป็นต้นปีหน้า เป็นต้นไป

3. ยอมรับที่จะไม่คิดเอาชนะเชื้อโรคอีกต่อไป และหาทางอยู่ร่วมกับมัน โดยการใช้หลัก new normal ที่มีชุดตรวจแอนติเจน เป็นเครื่องมือหลักในการใช้ชีวิต

เพื่อสกรีนคนที่ติดเชื้อ ก่อนเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ของสังคม ไม่ว่าจะเป็นการตรวจหาเชื้อในชุมชน การเข้าทำงานในบริษัท โรงงาน การไปเรียนหนังสือ หรือแม้แต่การชมกิจกรรมบันเทิง กีฬาต่างๆ

แปลว่า รัฐจะต้องหาทางทำให้ชุดตรวจมีราคาถูกที่สุด ที่จะทำได้หรือถึงระดับที่แจกฟรีเลย โดยการอุดหนุนราคา หรือทำให้เกิดการผลิตชุดตรวจขึ้นเองในประเทศ

ลองรับชมในรายการดูนะครับ

ปล. อยากมีโอกาสพูดเรื่องพวกนี้ ในรายการที่เป็นระดับชาติ แบบนี้อีกนะครับ ... รายการโหนกระแส ของคุณหนุ่มกรรชัย สนใจเชิญผมออกบ้างไหมเนี่ย 555
-------
สุทธิชัย หยุ่น ชวน ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทอล์ก ประเด็น วัดผลล็อกดาวน์ด้วยตัวเลขอะไร ? รับชมได้ใน Think Talk with Suthichai

คลิก https://aisplay.ais.co.th/portal/serial/series/6108e98b27f28a7bb63256fd

#AISPLAY #PLAYNEWS #ThinkTalkwithSuthichai #Suthichailive #Lockdown #สุทธิชัยหยุ่น #โควิด #ยอดผู้ติดเชื้อ #ล็อกดาวน์

ได้รับเกียรติจากคุณ สุทธิชัย หยุ่น (นักข่าวอาวุโส ที่ผมติดตามมาตั้งแต่เด็กๆ สมัยสงครามอ่าวเปอร์เซียเลยครับ) สัมภาษณ์ออนไลน์เกี่ยวกับเรื่อง มาตรการล็อคดาวน์ของรัฐบาล กับสถานการณ์โควิด-19 ว่าได้ผล ไม่ได้ผล อย่างไรบ้าง

ซึ่งผมก็วิพากษ์วิจารณ์ไปอย่างเต็มที่เลยครับ ไม่ว่าจะเป็นที่ เราจะเชื่อถือตัวเลขผู้ติดเชื้อจาก ศบค. ได้ยังไง ว่ามันมีแค่นี้จริง , การล็อคดาวน์ โดยไม่ระดมตรวจหาผู้ติดเชื้อ จะลดจำนวนผู้ติดเชื้อได้จริงหรือ และเราไม่ได้รับคำชี้แจงจาก ศบค. เลยว่า จะมีแนวทางการประเมินอย่างไร ว่าล็อคดาวน์ประสบความสำเร็จ มี KPI ไหนที่บอกว่าจะผ่อนคลายได้

และสุดท้าย ผมก็ให้คำแนะนำไปอย่างละเอียด เป็นขั้นตอนเลยว่า จริงๆ แล้วสิ่งที่รัฐบาลควรจะต้องทำ คืออะไรบ้างนะครับ พูดย่อๆ ก็คือ

1. ต้องยอมรับความจริงได้แล้วว่า ตอนนี้ระบบสาธารณสุขของไทยเรากำลังล่มสลาย และต้องปรับมาตรการต่างๆ เพื่อรักษาระบบสาธารณสุข

โดยยอมรับให้ "ชุดตรวจแอนติเจนแบบใช้ที่บ้าน และการกับตัวที่บ้าน" เป็นแนวทางหลักในการรับมือกับโรค ไม่ใช่แค่แนวทางเสริมอย่างที่ใช้ในตอนนี้

แล้วปลดล็อคในเรื่องของการจ่ายยาต้านไวรัสฟาวิพิราเวียร์ ให้สามารถแจกจ่ายกับทุกคนในประเทศที่เป็นผู้ติดเชื้อ ไม่ใช่รอจนกระทั่งอาการหนักแล้วค่อยให้ ... รวมถึงการถ่ายทอดความรู้ให้บริษัทเอกชนร่วมผลิตยานี้ด้วย ไม่ใช่แค่ให้องค์การเภสัชผลิตได้แค่ทีเดียว

2. ต้องยอมรับความจริงว่า วัคซีนของเรามีขาดแคลน และจำเป็นต้องเลือกใช้ รวมทั้งเสียสละวัคซีนให้เหมาะสมกับกลุ่มของผู้ที่จะรับการฉีด

แทนที่จะยังหมกมุ่น ดราม่า กับจำนวนผู้ติดเชื้อ ก็ควรจะเน้นแต่จำนวนผู้เสียชีวิตและผู้ที่ป่วยหนัก ซึ่งแทบทั้งนั้นจะเป็นผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประจำตัวต่างๆ

แปลว่าเราควรจะเอาวัคซีน astrazeneca ที่เรามีอยู่อย่างจำกัด มาเร่งฉีดให้กับคนกลุ่มเสี่ยงพวกนี้ (ซึ่งปัจจุบันฉีดไปได้น้อยมาก) เพื่อลดความสูญเสียในเรื่องของชีวิตให้ได้ก่อน ไม่ควรใช้วัคซีนสูตรไขว้พิศดาร ที่เอาวัคซีนซิโนแวคมาเป็นเข็มที่ 1 เพราะจะทำให้ไม่สามารถป้องกันความสูญเสียได้ทันท่วงที ในช่วงที่มีการระบาดหนักขนาดนี้

ส่วนวัคซีนซิโนแวคนั้น ควรจะทำความเข้าใจกับประชาชนทั่วไป ที่ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงว่า เราจำเป็นต้องเสียสละ ระดมฉีดวัคซีนตัวนี้ไปก่อน และสัญญาที่จะหาวัคซีนเข็มที่ 3 ที่ดีกว่า มาให้บูสต์ในอนาคต ซึ่งอาจจะเป็นต้นปีหน้า เป็นต้นไป

3. ยอมรับที่จะไม่คิดเอาชนะเชื้อโรคอีกต่อไป และหาทางอยู่ร่วมกับมัน โดยการใช้หลัก new normal ที่มีชุดตรวจแอนติเจน เป็นเครื่องมือหลักในการใช้ชีวิต

เพื่อสกรีนคนที่ติดเชื้อ ก่อนเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ของสังคม ไม่ว่าจะเป็นการตรวจหาเชื้อในชุมชน การเข้าทำงานในบริษัท โรงงาน การไปเรียนหนังสือ หรือแม้แต่การชมกิจกรรมบันเทิง กีฬาต่างๆ

แปลว่า รัฐจะต้องหาทางทำให้ชุดตรวจมีราคาถูกที่สุด ที่จะทำได้หรือถึงระดับที่แจกฟรีเลย โดยการอุดหนุนราคา หรือทำให้เกิดการผลิตชุดตรวจขึ้นเองในประเทศ

ลองรับชมในรายการดูนะครับ

ปล. อยากมีโอกาสพูดเรื่องพวกนี้ ในรายการที่เป็นระดับชาติ แบบนี้อีกนะครับ ... รายการโหนกระแส ของคุณหนุ่มกรรชัย สนใจเชิญผมออกบ้างไหมเนี่ย 555
-------
สุทธิชัย หยุ่น ชวน ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทอล์ก ประเด็น วัดผลล็อกดาวน์ด้วยตัวเลขอะไร ? รับชมได้ใน Think Talk with Suthichai

คลิก https://aisplay.ais.co.th/portal/serial/series/6108e98b27f28a7bb63256fd

#AISPLAY #PLAYNEWS #ThinkTalkwithSuthichai #Suthichailive #Lockdown #สุทธิชัยหยุ่น #โควิด #ยอดผู้ติดเชื้อ #ล็อกดาวน์