ฟังจากวงใน!! ทองคำยังเป็นขาขึ้นหรือไม่? เงินบาทแข็งกระทบอย่างไร?
ทองคำจะขึ้นหรือจะลง? ในขณะเงินท่วมโลกขนาดนี้ เงินบาทไทยแข็งจะกระทบกับราคาทองคำอย่างไร? เมื่อวันก่อนผมได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับพี่มล ฐิภา นววัฒนทรัพย์ CEO บริษัท YLG Bullion and Futures จำกัด ซึ่งเป็นผู้คร่ำหวอดในวงการทองคำมาหลัก 10 ปี ถือเป็น Insider ระดับต้นๆของเมืองไทย วันนี้ผมจะมาสรุปให้อ่านกันครับ
1. ทิศทางของทองคำในอนาคตจะเป็นอย่างไร?
พี่มลได้เล่าให้ฟังว่า ปีนี้ เป็นปีที่ทำให้คนหันมาสนใจทองคำมากขึ้น เพราะปีนี้ราคาทองคำขึ้นมา กว่า 30% เคยทะลุ 30,000 บาท ต่อทองคำ 1 บาท
ทว่าจริง ๆ แล้วใน 4 ปีที่ผ่านมา ทองคำเป็นขาขึ้นอยู่แล้ว โดยที่คนไม่ได้สังเกตเพราะขึ้นประมาณ 5-10 % ต่อปี
แต่พอมาปีนี้เกิดวิกฤตใหญ่อย่างการระบาดของไวรัสโควิด ผู้คนจึงกระโจนเข้ามาลงทุนในทองคำ เพราะถือว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย รวมทั้งกองทุนต่าง ๆ ก็เข้ามาลงทุนในทองคำเพิ่มมากขึ้น เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นด้วย
2. นอกจากปัจจัยเรื่องไวรัสโควิดแล้ว ยังมีปัจจัยอะไรอีกหรือไม่ ที่ทำให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น?
โดยพี่มลให้ความเห็นว่า การอัดฉีดเม็ดเงิน หรือการทำ QE ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ราคาทองคําสูงขึ้น ถ้าคุณย้อนไปดูตอนปี 2008 ตอนวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ตอนที่ประกาศทำ QE นั้นราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น
เพราะการทำQE ก็เหมือนกับเอาเงินมาโปรยในระบบ แต่พอรอบนี้ ทรัมป์ ออกมาประกาศจะทำ Unlimited QE เงินก็จะเพิ่มเข้ามามหาศาล ถ้าดูตั้งแต่ต้นปี ก็จะมีเงินเข้ามาในระบบประมาณ 5 ล้านล้านเหรียญ ทองคำเลยได้อานิสงส์ด้วย ราคาจึงปรับตัวเพิ่มขึ้น
3. จากที่ผ่านมา เมื่อหุ้นขึ้น ราคาทองคำก็จะลง แต่ตอนนี้สินทรัพย์ทุกอย่างเพิ่มสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นหุ้น ทองคำ รวมทั้ง Bitcoin ราคาเพิ่มขึ้นทุกอย่าง ตอนนี้เราจะใช้มุมมองเดิมที่บอกว่าทิศทางหุ้นจะสวนทางกับทองคำในการวิเคราะห์ ไม่ได้แล้วใช่ไหม?
พี่มลมองว่า การที่ราคาเพิ่มทุกสินทรัพย์พร้อมกัน ไม่ได้เกิดขึ้นทุกครั้ง อย่างเช่น เมื่อเกิดวิกฤตตลาดหุ้นปรับลง ราคาทองคำขึ้น แต่ปีนี้ก็มีบางช่วงเวลาที่ตลาดหุ้นและราคาทองคำลงพร้อมกัน เช่น ตลาดหุ้นลง 10% ทองคำลง 3% เหตุผลก็คือ “นักลงทุนขายทำกำไรจากทองคำ แล้วไปเติมเงินสดในตลาดหุ้น” โดยรวมแล้วเงินมีปริมาณเพิ่มขึ้น แต่สำคัญอยู่ที่ว่าเขาจะเอาเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ตัวไหน
ที่สำคัญคือ ต้องดูทิศทางของเงินมากกว่าว่าจะไปในทิศทางไหน เช่น ข่าววัคซีนกำลังมา คนก็เทขายสินทรัพย์ปลอดภัย มาลงกับสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้นเพราะมีความมั่นใจ แต่พอมีข่าวว่าไวรัสโควิด กำลังระบาดใหม่ คนก็เทขายสินทรัพย์เสี่ยง มาถือสินทรัพย์ปลอดภัย ก็จะโยกไปโยกมาอย่างนี้
พูดง่าย ๆ คือ “เงินต้องมีที่ไป แต่ต้องคาดการกันหน่อยว่าจะไปทิศทางไหน?”
4. จากข้อมูลครึ่งปีนี้ เป็นปีที่โลกพิมพ์เงินสูงสุดในประวัติศาสตร์ แปลว่า เงินในระบบมีมากขึ้นหลายเท่า คนเลยตั้งคำถามว่า มันกำลังถึงจุดจบของระบบการเงินเก่า แล้วหรือไม่ ? แล้วถ้าดอลลาร์เพลี่ยงพล่ำไป หรือหมดความไว้ใจแล้ว คนเริ่มทิ้งดอลลาร์มาถือทองคำ จะทำให้ราคาทองคำสูงขึ้น บางทฤษฎีบอกจะขึ้นเป็นหมื่นเหรียญ จะเกิดขึ้นได้หรือไม่?
พี่มลวิเคราะห์ว่า ทองคำตอนนี้ยังคงเป็นขาขึ้นอยู่ แต่จะขึ้นเป็นหมื่นเหรียญนั้นก็ค่อนข้างไกล แต่ทุกอย่างก็เกิดขึ้นได้ เนื่องจากดูในภาพรวมแล้วที่เราเห็นกองทุนต่าง ๆ เข้ามาลงทุนในทองคำมากขึ้น รวมทั้งธนาคารกลางของแต่ละประเทศ ปรับสัดส่วนการถือดอลลาร์น้อยลง และถือทองคำมากขึ้น จึงมองว่าเป็นเรื่องการกระจายความเสี่ยงมากกว่า
คิดว่าดอลลาร์อาจจะไม่ได้หายไปเลย แต่จะเป็นในเรื่องของความต้องการจะลดน้อยลง คนเริ่มกระจายความเสี่ยงไปที่ทองคำมากขึ้น ซึ่งส่วนตัวพี่มลมองว่า คนจะมีทางเลือกเพิ่มมากขึ้น ไม่ได้ใช้ดอลลาร์ทั้งหมด อย่างเช่น 3 ปีที่ผ่านมา จีนเริ่มเปิดประเทศมากขึ้น ใช้ทองคำในการ Exchange โดยการซื้อขายทองคำในตลาดเซี่ยงไฮ้ ก็ใช้เงินหยวนเป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยน และก็เป็นตลาดที่ใหญ่ไม่น้อยไปกว่าตลาด Comex เลย
5. มีคำกล่าวว่า “ถ้าขั้วอำนาจของโลกย้ายไปทางไหน ทองคำก็จะไปทางนั้น” ซึ่งจะเห็นได้จากปริมาณการใช้เงินดอลลาร์เริ่มลดลงจากการโอนเงินทั่วโลก 70-80 % เหลือแค่ 50% ในทางกลับกัน จีนก็เริ่มใช้เงินหยวนในตลาดทองคำ มีการให้กู้ในรูปแบบเงินหยวน ก็ถือว่าเป็นการคานอำนาจในระบบการเงินโลก ทองคำจะเป็นตัวนึงในการ Back ในการคานอำนาจ ได้หรือไม่?
พี่มลมองว่า ความสำคัญของทองคำก็จะมากขึ้น คือจะมีทองคำในตะกร้าของแต่ละประเทศในการออก currency เพื่อทำให้ประเทศของเขามีความน่าเชื่อถือเพิ่มมากขึ้น
6. ค่าเงินบาทแข็ง Fund Flow ไหลเข้า แล้วเสถียรภาพเงินบาทไทยจะเป็นอย่างไร? ทองคำจะปกป้องได้หรือเปล่า?
พี่มลวิเคราะห์ให้ฟังว่า การแข็งค่าของเงินบาทในรอบนี้ เพราะมีเงิน Fund Flow ไหลเข้ามามาก หลายประเทศตลาดหุ้นก็ทำ All Time High กันไปแล้ว
แต่บ้านเรายังไม่ได้กลับไปที่เดิม ก็เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ Fund Flow เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นบ้านเรา เมื่อเงินไหลเข้ามาบ้านเรามาก จึงเป็นสาเหตุให้เงินบาทแข็งค่า แต่ก็มองว่าจะเป็นแค่เพียงระยะสั้น ในส่วนคนที่ยังไม่ได้ซื้อทองคำก็เป็นข้อดี ที่จะซื้อทองได้ในราคาถูก ก็เป็นจังหวะที่ดีในการทยอยสะสมได้
7. หลายคนก็มองว่าราคาทองคำก็สูงแล้ว แต่จะไปได้ต่อไหม ? ประกอบกับการเข้ามาของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่มีนโยบายอุดหนุนสังคม อาจจะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจอัดเงินก้อนใหญ่ จะผลักดันให้ราคาทองคำสูงขึ้นหรือไม่?
พี่มลบอกว่า ไม่ว่ายังไงตัววัคซีนต้องออกมาอยู่แล้ว แต่จะได้ใช้ครบทุกคนก็ไม่ใช่เร็ว ๆ นี้ เศรษฐกิจก็ยังต้องใช้เวลา รัฐบาลของแต่ละประเทศก็
จะอัดฉีดเงินเพื่อช่วยเหลือประชาชน ก็ยิ่งเป็นบวกกับราคาทองคำ
เพราะยิ่งถ้ามีเงินอัดฉีดเข้ามากเท่าไหร่ ราคาทองคำก็สูงขึ้นได้มากเท่านั้น แต่ถ้าเมื่อไหร่เลิกอัดฉีดเงินแล้ว เศรษฐกิจเริ่มดีแล้ว วัคซีนมาแล้ว ภาคเอกชนกลับมาจับจ่ายใช้สอยเหมือนเดิม ตัวเลข GDP กลับมาบวกดีเหมือนเดิม ก็จะเป็นปัจจัยให้ราคาทองคำปรับตัวลดลง แต่เชื่อว่าจะยังไม่ได้เห็นภาพนี้ ภายใน 2 ปีจากนี้ไป
8. ถามถึงเรื่อง Bitcoin เพราะเพิ่งรู้จักกันในไม่กี่ปีนี้ แต่คนรุ่นใหม่จะเชื่อว่านี่เป็นทรัพย์สินที่ปลอดภัยหรือเปล่า?
พี่มลบอกว่า โดยส่วนตัวมองว่าเป็นสินทรัพย์ทางเลือก เพราะคนรุ่นใหม่จะเน้นไปลงทุนในด้านเทคโนโลยีดิจิตอลต่าง ๆ ซึ่ง Bitcoin ก็เป็นหนึ่งในทางเลือก เนื่องจากเงินที่มันเหลืออยู่ในระบบต้องหาที่ไปและ Bitcoin ก็จะเป็นหนึ่งในเหรียญที่นิยมมากที่สุด ทำให้ราคาของ Bitcoin ปรับตัวสูงขึ้น
เหมือนกับว่า คนกำลังสนุกกับเงินที่ถูกพิมพ์ขึ้นมาใหม่ สินทรัพย์ไหนที่ยังไม่ขึ้นก็ขึ้นสักหน่อย อย่างตลาดหุ้นของไทยที่ยังไม่ทำ New High ก็เข้ามาสักหน่อย ก็ต้องคอยดูกันว่าการเติบโตแบบนี้ เงินที่พิมพ์ออกมานี้มันจะยั่งยืนไหม? มันจะแข็งแกร่งหรือเปล่า?
9. หลายๆคนก็กังวลว่า เมื่อพิมพ์เงินกันมามหาศาลขนาดนี้ ประเทศเราจะเป็นเหมือนเวเนซุเอลาหรือเปล่า?
พี่มลมองว่าเป็นไปได้ยาก ที่เราจะเป็นเหมือนเวเนซุเอลา เพราะแบงก์ชาติค่อนข้างเข้มงวดและไม่มีนโยบายเรื่องการพิมพ์เงิน จะโฟกัสเฉพาะเรื่องเสถียรภาพเท่านั้น
สุดท้ายแล้ว พี่มลก็แนะนำให้มีทองคำ ติดพอร์ตไว้บ้าง สัก 5-10 % อาจจะออมในรูปแบบของทองแท่งก็ได้ เพื่อเป็นการกระจายการลงทุนด้วย เพราะดูภาพรวมแล้วใน 2-3 ปีนี้ ราคาทองคำยังคงเป็นขาขึ้น ส่วนจะลงเมื่อไหร่? ก็ต้องดูว่า “ธนาคารกลางจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเมื่อไหร่” ถึงเวลานั้นก็ต้องเริ่มระวัง
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ มุมมองของพี่มล ฐิภา นววัฒนทรัพย์ CEO บริษัท YLG Bullion and Futures จำกัด อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวโปรดใช้วิจารณญาณนะครับ เพื่อน ๆ เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยอย่างไร คอมเมนท์ด้านล่างเลยครับ และสุดท้ายนี้ขอให้ทุกคนลงทุนอย่างมีความสุขครับผม
.
แอดปลา
แจ้งข่าว สัมมนารอบต่อไป
อสังหา 3in1 (อสังหาให้เช่า+อสังหาทางด่วน) รุ่น 10
วันที่ 9-10 มกราคม 2564
ดูรายละเอียดที่ลิงค์ในคอมเมนท์ครับ
unlimited แปลว่า 在 Noyneung Makeup Facebook 的精選貼文
รองพื้นไม่หนาหนักฟิวผิวหายใจได้ ✨ Shu Uemura Unlimited Breathable Lasting Foundation SPF24 PA+++(35ml/1,950บาท) รองพื้นเนื้อกึ่งแมทท์ เกลี่ยง่าย บางเบาแต่ปกปิดดี เกลี่ยกลืนไปกับผิวเลย มีให้เลือกถึง 24 เฉดสี เค้าคิดมาแล้วว่า ต้องมีเฉดสีที่ตรงกับผิวคนเอเชียอย่างแน่นอน 👍🏻 โดยระบบตัวเลขคือ หลักแรก จะไล่จากชมพู(3) ไปเหลือง(7) และหลักที่สอง จะไล่จากเข้ม(2) ไปอ่อน(8) 👉🏻 หนึ่งใช้ 754 แปลว่า ค่าสี7(เกือบเหลืองสุด) และค่าความเข้ม5(กลางๆ) เลือกปาดสีใกล้ๆกันมาให้ดูด้วย 🥰 ถ้างงแนะนำให้ไปเลือกที่เคาน์เตอร์ได้เลย พี่ๆน่ารักมากครับ shu uemura #shuuemuraThailand #unlimitedmatch #รองพื้นหายใจได้
unlimited แปลว่า 在 Danai Chanchaochai Facebook 的最佳解答
วัดเออิเฮจิ (Eiheiji Temple) เป็นวัดนิกายเซนแห่งแรกของญี่ปุ่น
ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 1244 ตั้งอยู่บนเนินป่า ห่างจากตัวเมืองฟูคุอิ
ประมาน 15 กม. ภายในวัดมีอาคารมากมายกว่า 70 หลัง
เชื่อมต่อด้วยทางเดินเล็กๆ เป็นสถานที่พักของพระเซนจำนวน
150 รูป
วัดแห่งนี้มีชื่อเสียงทางด้านการฝึกสมาธิ เนื่องจากมีบรรยากาศที่
เงียบสงบ ช่วงฤดูใบไม้ร่วง บริเวณวัดจะเขียวชอุ่มใบด้วยใบไม้
สีสันสดใส และในช่วงฤดูหนาว ตามทางเดินก็จะถูกปกคลุมด้วยหิมะ
ซึ่งเป็นภาพที่สวยงามยิ่งนัก
วัดเออิเฮจิ (Eiheiji Temple) เป็นหนึ่งในวัดหลักของพระพุทธศาสนา
เซนนิกายโซโตะ (Soto Sect of Zen Buddhism) ก่อตั้งโดย
Dogen Zenji นักวิชาการทางพุทธศาสนาที่นำโซโตะเซนเข้าสู่
ประเทศญี่ปุ่นในปี 1228 หลังจากที่ได้ศึกษาในประเทศจีน
เป็นระยะเวลาหลายปี
แนวทางการนั่งสมาธิให้จิตสงบสู่เซน (แปลว่า ญาณ) แล้วออกมา
พิจารณาธรรมชาติ เพื่อให้เข้าถึงธรรม ณ วัดเอเฮจิ เป็นแนวทางปฏิบัติ
ที่คล้ายกับวัดป่าของไทยมากที่สุด ต่างกันที่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ..
นั่งสมาธิ 1ชม.= 2000 เยน 1วัน ราว 8000บาท
ถ้านั่งแล้วขยับตัว ก็มีไม้มาตีสะกิดให้ตื่นเดี๋ยวนั้น!
คงทำให้มีความตั้งใจมากขึ้น
ครั้งแรก! ธรรมดีทัวร์ เชิญร่วมสัมผัสวิถีแห่งเซน กับทริป
#TheBestofJapan วันเสาร์ที่ 19 - พฤหัสที่ 24 พฤศจิกายน
(ุ6 วัน 4 คืน)
เยือนดินแดนอาทิตย์อุทัยอันโด่งดัง…
พร้อมเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ กับความประทับใจให้ท่านได้สัมผัส
พร้อมรับรู้ข้อมูลน่าสนใจที่หลอมรวมเป็นวิถีชีวิต
ลิ้มรสชาติอาหารญี่ปุ่น อันสดใหม่
บุฟเฟต์ปูยักษ์อลาสก้า และอาหารทะเลแบบ Unlimited!
พักโรงแรมห้าดาวทุกแห่ง
ตื่นตากับสีสันของฤดูใบไม้ร่วง ที่โรแมนติก
ดื่มชาที่ปรุงโดยทายาทซามูไรรุ่นสุดท้าย บนเชิงเขาฟูจิที่ลือชื่อ
นำทริปแบบเอ็กซ์คลูซีฟ โดย ดร. ดนัย จันทร์เจ้าฉาย
สู่เมืองนารา เกียวโต ฟุกุอิ นาโกย่า ภูเขาไฟฟูจิ โตเกียว ช้อปปิ้งชินจูกุ
****ดาวน์โหลดรายละเอียดโปรแกรมที่นี่****
www.dmgbooks.com
โทร 02 685 2255, 092-956-1145, 087-303-6494
ที่นั่งจำนวนจำกัด!
#เทียวญี่ปุ่น #โปรแกรมทัวร์ญี่ปุ่น #เที่ยวเมืองฟูคุอิ #วัดเออิฮิจิEiheijitemple
#ธรรมดีทัวร์ #dmgbooks