Nice lecture 👏🏻👏🏻👏🏻📝
A Photography Talk with Jesse Marlow and Aaron Berger
• เมื่อวานมีโอกาสได้ไปฟังตากล้อง iN-Public มาพูดที่ไทยสองคน
• เป็นการเปิดรูปไป เล่านู่นนี่ให้ฟังไป สนุกและเพลิน และ inspiring มากครับ
• เลยอยากจะขอลองแชร์ที่ไปฟังมา เท่าที่จับใจความได้ ข้อมูลอาจจะมีผิดบ้าง มั่วบ้างขออภัยไว้ล่วงหน้าครับ
== Jesse Marlow ==
• Jesse เล่าให้ฟังว่า 10-15 ปีแรก นี่แทบจะถ่ายแต่งานขาวดำ เพิ่งมาถ่ายงานสีหลังจากนั้น
• หนึ่งใน subject ที่เค้าชอบถ่ายช่วงงานขาวดำคือ คนมีแผล (Wounded), พวกคนที่มีพลาสเตอร์แปะจมูก แปะหน้า แขนเข้าเฝือก
• ถ่ายไป 2 ปี มีรูปคนมีแผลแบบนี้เพียบ แต่ไม่รู้จะจบ series ยังไง
• จนวันนึงเจอผู้หญิงเข้าเฝือก นั่งรถเข็นอยู่ เห็นว่าน่าสนใจ เดินวนไปวนมา กลับมาอีกที ผู้หญิงยังอยู่ แล้วดันมีรถที่ถูกชนยับมาจอดอยู่ใกล้ๆ
• โอเค เค้าได้รูปจบแล้ว
• Jesse เล่าเบื้องหลังหลายๆ รูปที่น่าสนใจ มีรูปนึง ช่วงนั้นยังถ่ายซีรีส์คนมีแผลอยู่ เค้าเจอหุ่นปั้น chef แขนหักหน้าร้านอาหาร ยืนรออยู่ 20 กว่านาที เพื่อหวังว่าจะมีคนเจ็บอีกคนเดินผ่านมา เพื่อเป็น subject ที่ล้อกัน…
• แล้วก็มีลุงแขนหักเดินผ่านมาจริงๆ! แต่แกเดินเร็วจี๋ แบบน่าจะผ่านไปไวมากแน่ๆ เค้าเลยแกล้งทำเสียงผิวปาก วิ้วๆๆๆ
• แล้วลุงก็หันมามองกล้อง, แชะ, ได้รูป
• แต่หลังจากนั้น Jesse ก็ทำเป็นเนียนถ่ายตึก ถ่ายอะไรไปอีกแแป๊ป ให้ลุงหายงง แล้วเดินผ่านไปซะก่อน
• อีกรูปที่ชอบเบื้องหลังคือ รูปชายนั่งไขว่ห้างแล้วมีหน้าลอดออกมาช่องระหว่างขาที่ไขว้กัน
• เค้าเจอซีนนี้ ตอนไปนั่งกินกาแฟ, ซึ่งร้านกาแฟเป็นอะไรที่โคดน่าเบื่อ โคดไม่มีอะไรให้ถ่ายสำหรับเค้า
• พอเจอปุ๊ป...เอ้า ซวยแล้ว กล้องอยู่ในรถ ก็ต้องวิ่งไปหยิบกล้องมาอีก ทั้งที่ในใจรู้ว่า กลับมาผู้ชายคนนั้นก็คงเปลี่ยนท่าไปแล้วแหละ
• เปิดประตูร้านเค้ามาอีกที เอ้า! ยังอยู่ท่าเดิม
• Jesse ก็กดถ่ายไปเรื่อยๆ บางรูปปากโดนบังมากไป บางรูปหน้าเอียงไป บางรูปจมูกไม่อยู่ตรงกลาง
• ถ่ายไปยาวๆ จนคิดว่าได้รูปที่ใช่
• ช่วงถาม-ตอบ เราสงสัยว่า ตอนออกไปถ่าย Jesse มองหาอะไรเป็นพิเศษมั้ย คน? สี?
• เค้าบอกว่า เค้าชอบ Graphic ชอบเส้นตรง เคยเรียน Graphic Design มาก่อน แม่เป็น Fashion Designer ทำเสื้อผ้า โตมากับลาย Pattern ต่างๆ
• ชอบหาสีเหลือง เหลือง = Safety
• ชอบมองหาคนงาน (Workers) ที่ทำกิจกรรมต่างๆ ทาสี, ยกป้าย, ยกกระจก
• เมื่อก่อนเดินเยอะ แต่เดี๋ยวนี้คือ ขับรถไปเรื่อยๆ เจอซีนน่าสนใจก็จอดรถ แวะถ่าย
• เราสงสัยอีกว่า แล้วเค้ารู้ได้ไงว่า เออ นี่คือทางของเรา style ของเรา
• Jesse บอกว่า ถ่ายไปเรื่อยๆ อย่าหยุด (สำหรับเค้าคือ 15 ปี) แล้วเอารูปที่ชอบมาเรียงดู มันจะเห็นความเกี่ยวข้องกันบางอย่าง ถึงตอนนั้น รูปที่เราชอบ มันจะทำให้เกิด style ของเราเอง
• โอว…
• เรายังสงสัยต่ออีกว่า แล้วเวลาถ่าย series อ่ะ ทำไง มีโจทย์ในใจไว้ก่อนมั้ย?
• Jesse ตอบเหมือนเดิม ก็ถ่ายไปเรื่อยๆ อย่าหยุด รูปที่เราชอบ มันจะมีอะไรเชื่อมโยงกันเอง แล้ว series มันจะมาเองแบบธรรมชาติ
• เซนมากๆ #กราบ
== Aaron Berger ==
• Aaron ไม่มีอะไรเหมือน Jesse เลย
• เค้าถ่ายแบบ snap ไม่สนใจเส้นตรง ไม่สน graphic
• แต่สิ่งที่สนใจคือ Drama, Action, Emotion หน้าตาคนแปลกๆ ท่าทางประหลาดๆ ชอบความโกลาหล
• เค้าชอบ Garry Winogrand
• เค้าเล่าถึงเบื้องหลังรูปชายสูทน้ำเงิน วิ่งแหวกพนักงานเสื้อสีส้มว่า
• ตอนเห็นซีน คือเห็นชายสูทน้ำเงินดูรีบๆ มาแต่ไกล เห็นพนักงานเสื้อส้มสองคนตรงฉากหน้า เดาว่าเดี๋ยวต้องวิ่งมาชนกัน เห็นชายแว่นฉากหลังหันมองแบบไม่พอใจ
• โอ้ย นี่คือเห็นละเอียดขนาดนั้นเลยหรอวะเนี่ย - เรานึกในใจ
• ใช่ฮะ Aaron จะชอบมองซีนแบบไกลๆ กว้างๆ ก่อน คือมองให้เห็นมันมันมีกิจกรรมอะไรเกิดขึ้นบ้างในโซนนี้
• แล้วค่อยมองไปเป็นจุดๆ ว่าแต่ละกิจกรรม มันมีอะไรที่น่าเข้าไปถ่ายบ้าง
• ระหว่างเข้าไป ก็ดู background ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างอีก
• Aaron...พี่มีกี่ตากันแน่!?
• Aaron เป็นสตรีทสายฟิล์ม ส่วนมากจะเป็นงานฟิล์ม บางรูปคือกดแช๊ะเดียวจริงๆ
• เช่นรูปที่เพิ่งเล่ามาเป็นต้น
• ตอน edit รูป เค้าเพิ่งมาเห็นว่า เอ้าเห้ย! เส้นโค้งหลังคามันมาเชื่อมกับไรผมและขอบเชิ้ตของผู้ชายสูทน้ำเงินพอดีเป๊ะ
• เค้าบอกว่านั่นเรียกว่า โชคดี
• Aaron ชอบถ่ายรูปฝาแฝด, คนในครอบครัวทั่วๆ ไป ตามถนน
• เค้าบอกว่า ถ้าเราสนใจอะไรมากๆ ถ่าย subject นั้นบ่อยๆ มันจะกลายเป็น Your Voice เอง
• ช่วงแรกๆ ที่ถ่าย Aaron ไม่สนใจ สี กับ แสง เลย คือถ้า subject ดี อารมณ์ได้ ก็เอาแล้ว
• 2-3 ปีหลัง เพิ่งเริ่มให้ความสำคัญกับ สี และ แสง เพราะเค้าพบว่า มันทำให้รูปดูโดดเด่นขึ้น
• เค้าเล่าถึงรูปแฝดหญิงผมแดงในเดรสสีฟ้าทั้งคู่ ที่เดินสวนกับผู้ชายสองคนใส่เชิ้ตคล้ายกันว่า
เค้าเจอแฝดหญิงคู่นี้ก่อน เห็นว่าสีชุดเหมือนกัน สีผมเหมือนกัน น่าจะจับคู่กับอะไรได้
• เดินตามถ่ายไปเรื่อยๆ 20 นาทีเห็นจะได้
• Aaron บอกว่าใช่ครับ มันดูโรคจิตประมาณนึง 5555
• จนเค้าเห็นชายสองคนนั้นเดินสวนมา จับคู่ 2-2 พอดี
• และโชคดีที่ชายคนนึง หันไปมองกระโปรงของหญิงแฝดที่ลมพัดพอดี
• เราสงสัยว่า เอ แล้วเค้าเลือกรูปยังไงหรอ อันไหนดี อันไหนไม่ดี อันไหนควรเก็บไว้
• Aaron บอกว่า รูปที่ใช่ (Keeper) คือรูปที่ต้องมี Surprise
• เพราะ Surprise มันทำซ้ำอีกไม่ได้
• เพราะถ้ามัน Surprise เรา (คนถ่าย) มันก็น่าจะ Surprise คนอื่นๆ ได้เหมือนกัน
• เวลาออกไปถ่ายเสร็จ กลับมา Aaron จะทิ้งรูปไว้ 2-3 วัน หรือบางทีทิ้งไว้เป็นอาทิตย์ แล้วดูรูปหลายๆ รอบ ดูว่ารูปที่เคยชอบ มาดูรอบหลังๆ ยังชอบอยู่รึเปล่า ถ้าชอบอยู่ ก็คือรูป Keeper
• Aaron มีวินัยการถ่ายรูปสูงมาก ปกติเดินถ่าย จันทร์ - ศุกร์ วันละ 4-5 ชม. ถ้าแดดดีๆ ก็ 7 ชม.อัพ
• ปัจจุบัน Aaron ถ่ายดิจิตอลบ้าง แต่หลักๆ ยังคงเป็นฟิล์มอยู่ เค้าบอกว่า เพราะพอใช้ฟิล์ม เหมือนต้อง intense กับตัวเองขึ้นมากๆ ใช่ครับ เพราะถ่ายฟิล์มมันแพงไง 5555
• เค้าใช้ฟิล์ม Lomo 800 เพราะมันถูกสุดแล้ว และมันคือ Kodak Gold 800
• เราสงสัยว่า แล้วเราจะหา style ตัวเองเจอได้ไง
• Aaron แนะนำว่าให้ถ่ายทุกวัน ถ่ายเยอะๆ ดูรูปเยอะๆ และ copy copy copy งานที่ชอบเยอะๆ
• วันนึง คุณจะเจอ style แบบคุณเอง มันจะมาแบบช้าๆ ธรรมชาติๆ เลย ไม่ต้องเค้นอะไร
• เราอยากรู้ว่า แล้วเค้ามีวิธีฝึกสายตาตัวเองยังไง ให้มองเห็นซีนที่น่าสนใจ
• หนึ่ง ดูรูปที่ดีเยอะๆ แล้วลืมให้หมดก่อนออกไปถ่าย (ไอ่บร้า เพิ่งดูมา มันจะลืมได้ไง 555)
• สอง ถึงหน้างาน ให้มองไกลๆ กว้างๆ ดูรอบๆ เดินทั่วๆ โซนนั้น ดูความน่าจะเป็นว่าจะเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง
ถ้าเจอ subject ก็อย่าลืมดู background ดูคนข้างหน้า ข้างหลัง ดูความสัมพันธ์ของ subject และเรื่องราว
• เราอยากรู้ว่า ถ้าให้เลือกได้หนึ่งรูปที่แทนตัวเค้าได้ดีที่สุด คือรูปไหน
• Aaron บอกว่ารูปชายสูทน้ำเงินแหวกคนนั่นแหละ ถึงได้เอามาเป็นรูปแรกใน slide ไง
• ขอบคุณ Leica Camera Thailand ที่จัด Talk ดีๆ แถมยังฟรีเฉย
• ขอบคุณอ๋อง Asadawut ที่ส่ง link มาให้ลงทะเบียน ไม่งั้นคงไม่ได้ไปแล้ว ขอบคุณครับ
• ขอบคุณ Tuktik ที่ช่วยถ่ายรูปให้นะครับ
