‘Ere Our Curtain Falls’
Tales from the Shadows ซีรีส์เรื่องสั้นอย่างเป็นทางการของ FFXIV บอกเล่าเนื้อหาเพิ่มเติมจากในเกม
วันนี้ก็เข้าตอนที่เจ็ดแล้ว เป็นเรื่องราวในอดีตของเอเมทและอิลิดิบัส ถือเป็นตอนรองสุดท้ายของภาค Shadowbringers ค่ะ (จะมีทั้งหมดแปดตอน) มาย้อนอดีตกันเลย~
ตอนที่แล้ว bit.ly/TalesEP6
**ในตอนนี้ สรรพนามของอาเซ็ม ตัวตนในอดีตของ WoL เปลี่ยนตามเพศของตัวเอกของเรา ถ้าใครเล่นตัวผู้ชายก็จะถูกพูดถึงเป็น ‘เขา’ แทน ‘เธอ’ 😙
.
.
.
บทแปลเรื่องสั้น
ตอนที่ 7 : ก่อนจะปิดม่านการแสดง
“เอเมทเซลค์!”
เสียงคนเรียกข้าดังก้องอยู่ในห้องโถงทางเข้าอาคารหลัก จะแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินก็คงไม่ได้แล้วสิ (โธ่เอ้ย) จึงจำใจหันกลับไปพบหน้ากับคนที่วิ่งตามมา เกือบจะหนีพ้นแล้วเชียว…
เจ้าของเสียงนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากชายหนุ่มร่างเล็กในชุดคลุมสีขาวที่รีบวิ่งข้ามห้องโถงมา หน้ากากสีแดงบ่งบอกว่าเขาเป็นสมาชิกของผู้นำทั้งสิบสี่ อิลิดิบัส
ข้ารอให้คู่สนทนาพักหายใจจนหายเหนื่อยพอจะพูดได้ เสียงของเขาเป็นน้ำเสียงที่สดใสกระตือรือร้นเช่นเคย
“ท่านรู้จักภูเขาไฟที่เรากำลังจะประชุมกันในวาระถัดไปหรือไม่?”
“อา ใช่ ข้ารู้มาว่าหัวข้อเป็นเรื่องของไฟ”
ตามรายงานที่ผ่านตา มีการเคลื่อนไหวของเอเธอร์ที่ผิดปรกติบนเกาะภูเขาไฟแห่งหนึ่ง พูดอีกอย่างก็คือมันกำลังจะปะทุนั่นเอง บนเกาะนั้นมีหมู่บ้านอยู่ เป็นหมู่บ้านที่ทำการเกษตรได้ผลผลิตดีงามยิ่ง น่าเสียดายที่อีกไม่นานมันจะต้องถูกทำลายด้วยภัยธรรมชาติ แต่โลกของเราก็เป็นเช่นนี้เอง
หน้าที่ของพวกเราคือการรับรู้และจับตาดู เช่นเดียวกับชาวหมู่บ้านนั้นที่ไม่คิดขัดขวางกระบวนการธรรมชาติ พวกเขาอพยพไปที่อื่นเรียบร้อยแล้วด้วยความรอบคอบ จริงอยู่ที่ว่าเหล่าผู้นำมีแผนจะประชุมกันเรื่องนี้ แต่ผลลัพธ์ก็คงไม่อาจเปลี่ยนแปลงไปได้
ถ้าเช่นนั้นแล้วอิลิดิบัสต้องการจะคุยกับข้าในประเด็นใดกัน?
“อาเซ็มออกเดินทางไปที่นั่นแล้ว ได้ยินว่านางจะไปยับยั้งการปะทุของภูเขาไฟ”
...ข้าพยายามทำสีหน้าให้ราบลื่น ถึงแม้คิ้วจะเริ่มขมวดเข้าหากันทันทีก็เถอะ
“ด้วยวิธีการใดรึ?” ข้าถามออกไปทั้งที่ในใจอยากจะถามว่าทำไมต้องมาฟ้องข้าด้วย อิลิดิบัสก็ตอบกลับด้วยท่าทีสุขุม
“ท่านรู้จัก‘อิฟริต้า’หรือไม่? เจตจำนงแห่งไฟ”
“ตัวตนประดิษฐ์ฝีมือลาฮาแบรใช่ไหม ถือเป็นแนวคิดที่น่าทึ่งนะ เป็นผลงานที่เจ้าตัวภูมิใจเสียด้วย”
“ใช่ เป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมจริงๆ” เจ้าหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงชื่นชมพร้อมรอยยิ้มจริงใจ สัมผัสได้ว่าเขาชื่นชมลาฮาแบรมากนัก
ปรกติแล้วข้าคิดว่าอาการหลงใหลยกย่องในตัวผู้นำคนอื่นๆของอิลิดิบัสนั้นก็น่าเอ็นดูอยู่หรอก ถึงจะทำให้เขินในบางที แต่ตอนนี้เรื่องที่ชวนให้สนใจมากกว่าคืออิฟริต้านั้นมาเกี่ยวอะไรด้วย … และคิ้วของข้าก็ยังคงขมวดค้างต่อไปพร้อมครุ่นคิด
.
.
‘อิฟริต้า’ เป็นการรวมตัวของเอเธอร์แห่งไฟ..นึกดูแล้วก็พอจะเข้าใจว่าอาเซ็มมีแผนอะไร นางคงจะเปลี่ยนเอเธอร์ที่ไหลล้นออกมาจากภูเขาไฟให้เป็นอิฟริต้า แล้วก็ล่อมันไปทำลายที่อื่นที่ปลอดภัย
ดังนั้น..อาเซ็มก็ต้องใช้คอนเซปต์วิธีการสร้างอิฟริต้า แต่ถ้าไม่ใช่ลาฮาแบรที่มอบให้เธอเสียเองแล้วจะเป็นใครกัน? แน่นอนว่าคอนเซปต์ทั้งหมดทั้งถูกเก็บรักษาไว้ที่สำนักงานผู้สรรค์สร้าง ไม่สามารถนำออกมาใช้เป็นการส่วนตัวได้โดยง่าย
เว้นเสียแต่ว่า...ไอ้เจ้าหัวหน้าสำนักงานที่ว่านั่นจะเป็นคนอนุญาตเสียเอง ใช่สิ จะมีใครอื่นอีกเล่า ข้าเห็นภาพเพื่อนตัวดียิ้มกริ่มพร้อมอวยพรให้อาเซ็มปลอดภัย ไฮโธลเดอุสชอบนักกับการสมคบคิดทำเรื่องยุ่ง ข้ายกมือขึ้นก่ายหน้าผากโดยลืมไปว่ายังใส่หน้ากากอยู่ อิลิดิบัสก็ดูจะรู้ทันทีว่าข้าเข้าใจที่มาที่ไปแล้ว
“ถ้าสถานการณ์บานปลาย อาเซ็มจะต้องถูกตำหนิอีกแน่ แต่...” เจ้าหนุ่มหยุดคิดครู่หนึ่ง “แต่ข้ามั่นใจว่ามันจะไม่เป็นเช่นนั้น หากท่านตามไปช่วยเธอ”
“นั่นก็จริง... ว่าแต่ในฐานะตัวแทน เจ้ามาเข้าข้างนางแบบนี้จะดีรึ?”
“หาได้เป็นเช่นนั้น” อิลิดิบัสตอบด้วยความกระฉับกระเฉง “ข้าเพียงแต่ให้น้ำหนักกับความคิดเห็นของท่านอาเซ็มอย่างเท่าเทียมเท่านั้น ในเมื่อเราทั้งหมดก็ยังมิได้ตัดสินใจเด็ดขาดเกี่ยวกับภูเขาไฟนี้”
ถึงจะไม่ค่อยเห็นด้วย แต่ก็ไม่ได้รู้สึกอยากจะโต้แย้ง ข้าจึงเพียงแต่ยักไหล่ อาเซ็มช่างโชคดีที่อิลิดิบัสคนปัจจุบันนี้เป็นคนอ่อนโยน แต่ก่อนจะเดินจากไป ข้าก็อดจะถามคำถามหนึ่งไม่ได้
“อาเซ็มบอกเจ้าหรือเปล่าว่าทำไมนางถึงอยากขัดขวางการระเบิดของภูเขาไฟนี้นัก”
“ถ้าจำไม่ผิด..” ชายหนุ่มมีสีหน้าครุ่นคิด พยายามจะรื้อฟื้นบทสนทนาให้แม่นยำถูกต้องทุกคำ สมกับตำแหน่งตัวแทนที่จะไม่พูดอะไรพลีผลาม
“นางบอกกับข้าว่า ‘องุ่นที่ปลูกบนเกาะนั้นรสชาติเยี่ยมมาก’ มันควรค่าแก่การสงวนเอาไว้แม้จะต้องขัดหลักธรรมชาติก็ตาม ถ้าอาเซ็มพูดแบบนี้แล้วมันก็คงจะไม่ธรรมดาจริงๆ!”
“...อืม นั่นสินะ” ข้าไม่อยากจะทำลายความเลื่อมใสของอิลิดิบัสที่เกิดจากความใสซื่อ จึงไม่ได้พูดอะไรออกไปมาก แต่เจ้าสองตัวนั่น... เจ้าคนชอบองุ่นและเจ้าตัวสมคบคิด เตรียมรอโดนข้าเทศน์ชุดใหญ่ได้เลย
อิลิดิบัสบอกลาโดยไม่ได้สังเกตเห็นความอ่อนอกอ่อนใจของข้า ชายหนุ่มร่างเล็กยิ้มและเดินจากไปพร้อมรำพึง ‘อาเซ็มมักมีมุมมองที่แปลกไปกว่าใครเสมอ!’
.
.
.
เมื่อกาลก่อน อิลิดิบัสเป็นคนเช่นนี้เอง มีน้ำใจ กระตือรือร้นที่จะทำหน้าที่ เคารพและชื่นชมเหล่าผู้นำมากกว่าใคร สำหรับพวกเรา เขาเป็นเหมือนน้องชาย เป็นที่รักของทุกคน
ในตอนที่ต้องเลือกหัวใจของโซดิอาร์ค เราทุกคนต่างมุ่งมั่น แต่เมื่อผลปรากฏว่าเขาคือคนที่เหมาะสมที่สุด ไม่มีแม้คนเดียวที่ไม่หวั่นไหวเมื่อจะต้องเสียเขาไป
แน่นอนว่าเรายิ่งตระหนกเมื่อได้พบกับเขาอีกครั้งโดยไม่คาดฝัน มันเกิดขึ้นหลังจากโซดิอาร์คถูกอัญเชิญได้ไม่นาน หายนะผ่านพ้นไปชั่วคราว แต่ผู้คนเริ่มแตกแยก ไม่สามารถรวมใจเลือกเส้นทางอนาคตได้ ฝ่ายหนึ่งอยากให้นำพาพวกพ้องกลับมาด้วยการเสียสละ อีกฝ่ายหนึ่งอยากปล่อยให้โลกเป็นของชีวิตใหม่ที่เกิดขึ้นมา
ขณะที่กำลังสิ้นหนทาง เราก็ได้เห็นมัน ร่วงหล่นออกมาจากอกของโซดิอาร์ค ไม่มีรูปทรงแน่ชัด มันสั่นไหว บิดเบี้ยว และเริ่มเปลี่ยนลักษณะกลายเป็นชายคนหนึ่ง เขามองมาที่เรา ปากเริ่มปรากฏเป็นรูปร่างที่ชัดเจน เกือบจะคล้ายรอยยิ้มจริงใจที่คุ้นเคย
"อย่า..กลัว..ไปเลย...เราต้องทำได้..ทางเลือกที่ถูกต้อง...ข้า..อิลิดิบัส...จะช่วยทุกคนเอง"
.
.
.
เวลาผ่านไปเนิ่นนานเพียงไร ข้าไม่ใส่ใจที่จะจำ เมื่อหน้าที่ในฐานะจักรพรรดิโซลัสสิ้นสุด จิตก็ล่องลอยไปในที่ๆคุ้นเคย อยากจะพักอย่างสงบชั่วคราวในห้วงมิตินี้ อาจจะสักร้อยปี อยู่ในรูปลักษณ์ดั้งเดิมของตน เพื่อชำระล้างคราบไคลจากตอนที่อยู่ในร่างของโซลัสออกไป
ก็ใช่ว่าการเก็บรักษาอัตลักษณ์เอาไว้จะยังเหลือความหมายอะไรเป็นพิเศษ เคยคิดหลายครั้งหลายหนว่าจะปล่อยให้ตัวตนดั้งเดิมเลือนหายไป
แต่เมื่อเห็นสภาพของอันซันเดอร์อีกสองคนแล้ว ข้าคิดว่าดื้อดึงต่อไปก็ไม่เลวนักหรอก อาจจะมีเหตุผลอะไรดีๆมาแทนที่ความรู้สึกอันว่างเปล่านี้ก็เป็นได้
.
.
"เอเมทเซลค์"
เสียงเรียกชื่อข้ากังวานในความมืด
อีกแล้วรึ? แม้ตัดสินใจว่าจะเพิกเฉย แต่เสียงนั้นก็ใกล้เข้ามาอีกครั้ง
เป็นเสียงเดียวกันกับเสียงที่เคยเรียกข้าในห้องโถงเมื่อนานแสนนานมาแล้ว แต่มันกลับฟังดูไม่เหมือนกัน ทั้งน้ำเสียง ทั้งนิสัยของผู้พูด อันที่จริง…จะว่าเป็นคนละคนกันโดยสิ้นเชิงก็ว่าได้
"ลาฮาแบรจากไปแล้ว" เสียงนั้นพูดแผ่วเบา
ข้าลุกขึ้นยืนมองหน้าอิลิดิบัส เกิดความเงียบยาวนานระหว่างเราสองคน น้ำหนักในความหมายของคำพูดนั้นไม่จำเป็นต้องอธิบาย ความตายไม่ใช่จุดสิ้นสุดของเรา แต่การจากไปครั้งนี้..ไม่ใช่
"เรารู้กันอยู่แล้วว่าสักวันต้องเป็นแบบนี้"
ข้าปิดตาลง ถอนหายใจแช่มช้า เขาพูดถูกแล้ว ในพวกเราสามคน ลาฮาแบรใจร้อนที่สุด และสุดท้ายมันก็กลายเป็นความประมาทเลินเล่อ ลาฮาแบรไม่เคยหยุดพัก ทั้งเดินทางระหว่างโลกกระจกทั้งหลาย เปลี่ยนร่างครั้งแล้วครั้งเล่าแม้มันจะทำลายตัวเองทุกครั้ง ต้องการสร้างหายนะครั้งใหม่ทันทีแม้มันจะเพิ่งผ่านพ้นไป
ความหลงใหลในธาตุไฟของเขาส่งผลกับตัวเขาเองด้วยหรือเปล่า? ตั้งแต่อิฟริต้าจนถึงวิหคเพลิง สิ่งประดิษฐ์ของลาฮาแบรล้วนสวยงามโชติช่วง แต่สุดท้ายเปลวเพลิงก็ย่อมเหลือเพียงเถ้าถ่าน ดังเช่นตัวเขาเอง
ข้าลืมตาขึ้นมองหน้าคนที่เคยนับเป็นน้องชาย แต่ริมฝีปากใต้หน้ากากของอิลิดิบัสไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ความรู้สึกที่ผูกพันกับพวกเรายังหลงเหลืออยู่หรือไม่? เขาไม่อาจบอกเราได้อีกแล้วใช่ไหมว่าเขารู้สึกอย่างไร?
"ทำไมหรือ เอเมทเซลค์?"
"ไม่มีอะไร ข้าแค่คิดถึงผลงานของลาฮาแบรที่เหมือนตัวเขาเอง"
"ผลงานของเขา?" ดูจากหมัดที่กำแน่นและน้ำเสียงเจือความลังเล แน่นอนว่าเขาจำไม่ได้ อิบิดิบัสเองก็รู้แจ้งดีว่าความทรงจำอีกส่วนของตัวเองนั้นหายไปอีกแล้ว นับแต่วันที่เขากลับมาในฐานะความหวัง เวลาได้ทำลายเศษเสี้ยวที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดของเขาไปช้าๆ
"อิลิดิบัส แน่ใจรึว่าเจ้าจะไม่ดูคริสตัลของตัวเอง?"
ตอนที่อิลิดิบัสและลาฮาแบรยังเป็นตัวของตัวเอง เราช่วยกันระลึกความทรงจำถึงผู้นำคนอื่นๆและบรรจุมันลงในคริสตัล เพื่อคนที่จะมารับตำแหน่งต่อไปจะได้เรียนรู้ถึงความทรงจำเหล่านั้น
ข้าแน่ใจว่าอิลิดิบัสสามารถใช้มันเพื่อรื้อฟื้นความทรงจำบางส่วนของตัวเองได้ แต่เขากลับไม่เคยทำเช่นนั้นเลย... และครั้งนี้ก็เช่นกัน
"ข้าคืออิลิดิบัส ขอเพียงจำหน้าที่ของตนได้ เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว
ต่อให้ข้าระลึกถึงบางอย่างออก…ข้าก็จะต้องลืมมันอีกแน่ระหว่างการดิ้นรนอันยาวนานนี้ ถ้าหากมันเป็นความทรงจำที่มีความหมายลึกซึ้งตามที่ข้าเข้าใจ ข้าก็ไม่อยากจะลืมมันครั้งแล้วครั้งเล่า
อย่าให้ข้าต้องจำมันได้และลืมมันอีกเลย"
ถึงจะไม่ค่อยเห็นด้วย แต่ก็ไม่ได้รู้สึกอยากโต้แย้ง ข้าจึงเพียงแต่ยักไหล่เช่นในอดีต แต่อิลิดิบัสก็จำเรื่องนี้ไม่ได้เช่นกัน
"ข้าจะไปที่โลกต้นกำเนิด ไปจัดการกับผู้กล้าคนที่ทำให้ลาฮาแบรพ่ายแพ้" อิลิดิบัสพูดและช่องประตูมิติก็เริ่มเปิดออก
"ถ้าฝั่งนั้นเป็นผู้กล้า ก็ไม่ใช่ศัตรูของเจ้าน่ะสิ แต่จะยังไงก็เอาเถอะ"
"เราต้องเตรียมรับมือสถานการณ์ที่แย่ที่สุด จะสำเร็จได้ เจ้าก็ต้องเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้งด้วยเช่นกัน"
ก่อนจะตอบว่าข้าอยากจะงีบหลับพักสักครู่ อิลิดิบัสก็หายตัวไป ทิ้งข้าไว้ลำพังในความมืด
และนั่นคือครั้งสุดท้ายที่เราได้พบหน้ากัน
.
.
.
.
แล้วตอนนี้ล่ะ?
พลังเวททั้งหมดของข้าสลายไป
เหลือเพียงตัวตนของข้าเอง
แผ่วบางเจือจาง
เฉกเช่นลมหายใจของข้า
ที่ใกล้ถึงคราวจะหายไปเช่นกัน
เป็นการต่อสู้ที่แสนสาหัส
เป็นชะตาที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง
ข้าถึงเดิมพันด้วยทั้งหมดที่ข้ามี
เพื่อความหวังของข้าและผองพี่น้อง
และแล้วเอเธอร์ก็เพรียกหาข้า
สู่ความมืดมิดชั่วนิรันดร์แห่งอันเดอร์เวิลด์
ข้าคิดถึงอดีตที่ผ่านพ้นมา
และอนาคตที่จะก้าวผ่านข้าไป
ตอนจบต่อจากนี้
มิได้ขึ้นอยู่กับข้า
แม้ความคู่ควรยังต้องรอการพิสูจน์
แต่ยังมีตัวแสดงบางคน ยืนหยัดอยู่บนเวที
แม้มือนี้จะไม่อาจคงรูปร่าง แต่ข้าก็จะดีดนิ้ว
หยุดม่านการแสดงไม่ให้ปิด
และประกาศว่า encore!
จับตาดูให้ดีล่ะ-
บทสรุปของเรื่องราวนี้
.
.
.
================
=เก็บตก=
บทพูดของเอเมทช่วงท้าย ในฉบับ Eng นั้นเป็นกลอน (ขอข้ามการแปลให้มีสัมผัสตามต้นฉบับ) เหมือนกับเนื้อหาหลายๆอย่างของอามูรอทที่อ้างอิงวรรณกรรมคลาสสิก กลอนที่ว่าเป็นกลอนจากบทละคร The Tempest ของเชคสเปียร์
เป็นปัจฉิมบทที่ พรอสเพโร ตัวเอกของเรื่องผู้เป็นนักเวท ยอมละทิ้งเวทมนตร์ทั้งหมดของตน ยกโทษให้คนบาปที่เคยโกรธ ขอให้คนดูอภัยให้ตนในเรื่องไม่ดีที่เคยทำ ก่อนจะกลับไปอยู่กับครอบครัวอย่างผาสุข
ตามที่ผู้เขียนตั้งใจอ้างอิงเนื้อหา บทบาทของเอเมทตอนนี้ก็ใกล้เคียงกับพรอสเพโร ที่ไม่มีพลัง ปลดเปลื้องความร้ายกาจที่เคยมี ปล่อยวางและเป็นอิสระ
ชอบการนำมาใช้สื่อความเจ้าบทเจ้ากลอนเข้ากับตัวละครดี ยิ่งตอนบอกอองคอร์นี่ทำเอาอมยิ้มเลย คือถึงเวลาก็จะสลายไปในไลฟ์สตรีม แต่ตอนนี้ยังไม่ยอมว้อย I’m dead, but nah จะอยู่ต่อไปอีกนิดในฐานะคนดูหลังฉาก แถมผายมือมายัง ‘ตัวแสดงบางคนที่ยังอยู่บนเวที’ ให้เล่นต่อซะด้วย
ตัวแสดงที่ว่าก็หมายถึงตัวเอกของเรานั่นเอง ดูจะย้ำหลายครั้งทั้งในนิยายนี้และ MSQ ว่าเข้าช่วงจบของเนื้อเรื่องแล้ว หลัง ShB มาความคาดหวังก็สูงลิบ 😅 ก็เชื่อมือทีมงานว่าจะปิด arc นี้ได้ดี มารอดูกันต่อไปจ้ะ~
ป.ล. ใครเชื่อทฤษฏีนกชูบิลล์แต่แรกนี่ขอคารวะ...
#FF14
ff14 msq 在 Taepoppuri Facebook 的最佳貼文
FFXIV 5.3 รีแอคชั่น Glory to the mankind
จบ MSQ กับ Nier แล้ว
เมนเควสสุดมาก เมื่อเทียบกับเวลาที่มีถือว่าเล่าเรื่องได้ข้นระดับภาคหลักเลย ทั้งลอร์ทั้งอารมณ์มาเต็มไม่พัก ยิ่งลาสบอส และคัทซีนกลางบอส (ไฮป์ฉากขโมยซีนทั้งตี้จนไวป์ โคตรฮา)... และคัทซีนจบ
ปิดฉาก Expansion ได้โคตรกินใจ 😭😭😭 ยังคิดเหมือนเดิมว่านี่คือพีคสุดของเกมนี้ละ ภาคหน้าต่อๆไปคงทำดีกว่านี้ไม่ได้แล้ว ก็หวังว่าจะคิดผิดนะ
เดี๋ยวมาพูดถึงรายละเอียดของเนื้อเรื่องทีหลัง น่าจะยาว โพสต์นี้พูดถึง Puppet’s Bunker ก่อนละกัน
-----------------------
เปิดเซิฟก่อนเวลาชั่วโมงนึง เลยเข้าสบายๆ แต่ แต่ แต่ ไป congested ตอนจะเข้า Komra ..... orz ไม่เคยเจอคนเต็มแมพในแพทช์หลักเลยนะ นี่ครั้งแรก
ต้องไปทำเควสเวพ่อนขี่กันดั้มก่อนจนจบคนถึงซาลงกว่าจะเข้าแมพเปิดเควสได้.. เหล่าคนแคระก็เริ่มจัดงานเลี้ยงหมู่บ้าน..เดี๋ยวมันต้องโดนระเบิดลงตามเทรลเลอร์นี่นา รีบถ่ายรูปดีกว่า
ชื่อเควส Everything you know is wrong .... ชักรู้สึกหวั่นไหว
นั่นไง ตูว่าแล้ว เมื่อ waifu turns evil โนววววว
ควรจะต้องเครียด แต่ฮาคนแคระหนีระเบิด we’re under fcking attack
ต่อคิว แทงค์ 3/3 ฮีลเลอร์ 6/6 DPS 4/15 นี่มันอะไรกัน!! Heresy!!! พวก dps มันหายไปไหนกันหมด
รอไปเกือบสิบห้านาที...พอเข้ามาเจอบอสแรกกดยังไม่ทันจบ opener ก็ตายแล้ว 😲
ไอ้ท่าวงแสงนี่หลอนมาก เกิดแฟลชแบคถึงลาสบอสริธึ่มเกมแสนจัญไรของ Drakengard 3 ทันที
โง่ซ้ำซ้อน มัวแต่โวยวายกับเพื่อน ตายแล้วกดผิด ไปเกิดนอกตี้ เลยยืนเป็นคนพากย์เรือยาวอยู่ข้างนอกจนบอสตาย เย้ My job here is done!
บอสสอง แบ่งทีมตี สนุกดี แต่ทำไมทีมเราตีไวจังวะ ...หรือว่าทีมอื่นตีช้า ...ง่า ทีมอื่นตีช้าจริง ตีช้าโคตรๆด้วย เหลือเกือบครึ่ง บอสต่อๆไปท่าทางจะเหนื่อยนะ
บอสสาม นึกว่าคอมมานเดอร์จะโผล่ขึ้นมาจากกลางห้อง
เพลง!! End of the unknown!!!!! อ๊าาาาาาากก ในที่สุดเพลงเกย์ไนท์คลับก็มา
โดนพอดทุบตายกันระนาว กว่าจะดูออกว่ามันจะออกเป็นเส้นหรือวง ไวป์ไปสองที แต่ในที่สุดก็ผ่านแบบมั่วๆงงๆ
ฉากถัดมา ดันมาคุนี่มันอะไร…
โว้ยยย ยิงเลเซอร์บวกอีก แถมมีสามรอบ มีลีไม่ต้องตีจ่ะ วิ่งอย่างเดียว
ลาสบอส...นี่ไม่ใช่สิ่งที่คิดไว้
หรือมันจะกลายเป็นหัวโยโคทาโร่ (Emil)
แล้วววว ทำไมเลือดมันลดไวจัง ต้องมีเฟสสอง
ครับ….เฟสสองอึ๋ยย์มากกกก
ท่าดักควายเยอะมาก..เยอะเกินไปแล้วว้อย
วิ่งหนี AoE ขณะที่แทงค์โดนบดขยี้ด้วยส้นสูง บรัยส์
ผ่านด้วยการไวป์รอบเดียว แต่ยื้อโคตรนาน ชอบโดนระเบิดลงหายทีละตี้ๆ
ได้เพลงมาหนึ่งอัน...ของอื่นแห้วหมด ต้องลงอีกที 😭 อาทิตย์แรกไม่อยากลงบ่อย ทรม๊าน
โดยรวมแล้วชอบบอสไฟต์มากกว่า Copied factory สนุกดี ตายเยอะกว่ารอบที่แล้ว แต่ถ้ายากสุดตลอดกาลยังยกให้ไวป์ปิ้งซิตี้..
#FF14 #Shadowrbingers
ff14 msq 在 Taepoppuri Facebook 的精選貼文
บทสรุปของ Shadowbringers ใกล้เข้ามาแล้ว
เตรียมตัวตับพังกันหรือยังจ๊ะ
จากไลฟ์ของโยชิพีล่าสุดบอกว่า
ff14net.2chblog.jp/archives/56888265.html
- จะมีไลฟ์เลทเตอร์ของ 5.3 ต้นเดือนหน้า แต่เป็นแบบอัดไว้ก่อนแล้ว ไม่ใช่รายการสด
- เป็นการพูดถึงคอนเทนต์ที่เหลือ และวันที่จะออกแพทช์ด้วย (ปกติก็หลัง LL สองอาทิตย์)
- โยชิพีใช้เวลาเล่นและเช็ครายละเอียดของ MSQ รอบนี้นานถึงเจ็ดชั่วโมง...เอาแต่ส่วนที่เป็นเนื้อเรื่องก็ยาวเท่ากับหนังเรื่องนึงได้เลย
- อื่นๆก็พูดถึงการจะเพิ่มให้เอาอาวุธมาแขวนในบ้านได้ จะเพิ่มให้มีเลือกใส่ช่องข้อความเวลาใช้โหมดถ่ายรูป
.
.
ที่ผ่านมา ถ้าไม่นับความพีคของตอนจบ expansion เองแล้ว แพทช์ที่พีคที่สุดคือ x.3 ตลอด เป็นเป็นแพทช์จบประเด็นหลักของภาคนั้นๆ ส่วนแพทช์ x.4 กับ x.5 จะใช้บิลด์เนื้อหาในภาคถัดไป
ทั้งตอน 3.3 ฉากที่ WoL เดินเข้าไปหานิดฮอกบนสะพานอิชการ์ด... หรือ 4.3 การปิดฉากความทุกข์ของโยทสึยุ ล้วนเป็นฉากสำคัญจาก Heavensward และ Stormblood
ก็ไม่รู้ว่าใน 5.3 จะปิดประเด็นได้คู่ควรกับตอนจบ Shadowbringers มั้ย ต้องรอดูกัน
แต่ที่แน่ๆเราไม่รู้สึกว่ามันจะจบเรื่องโซดิอาร์คกับไฮเดลีนได้ใน 5.3 เลย เปิดปมไว้ซะขนาดนั้น แถมบิลด์มาตั้งแต่ 1.0 ถ้าเร่งจบนี่เสียของมาก คิดว่าจะไปเป็นแก่นของ 6.0 ส่วนเนื้อเรื่องใน 5.3 นี่จบแค่ปมของเดอะเฟิสต์และส่งพวกไซออนกลับบ้านได้มากกว่า
ป.ล. ตอนนี้มีฝรั่งทายกันขำๆว่าเอ็กซาร์คจะม่องไม่ม่อง ดูสัดส่วนแล้วถ้ามันตายนี่เจ้ามือเจ๊งแน่นวล มีแต่คนเชื่อว่าต้องเด๊ดสะมอเร่ 🤣
#FF14 #Shadowbringers
ff14 msq 在 Shadowbringers Main Scenario Quests - FFXIV Wiki 的相關結果
Contents · 1 Levels 70-71. 1.1 Main Quest Chain; 1.2 In Search of Alphinaud Quest Chain; 1.3 In Search of Alisaie Quest Chain; 1.4 Main Quest ... ... <看更多>
ff14 msq 在 Eorzea Database: Post-Stormblood Main Scenario Quests 的相關結果
FINAL FANTASY, FINAL FANTASY XIV, FFXIV, SQUARE ENIX, and the SQUARE ENIX logo are registered trademarks or trademarks of Square Enix Holdings Co., Ltd. ... <看更多>
ff14 msq 在 Main Scenario Quests - Final Fantasy XIV A Realm Reborn Wiki 的相關結果
This page lists every Main Scenario Quest currently in the game. If you're looking for the former lists, please check MSQ Historical List. ... <看更多>