關於 explore singapore instagram ，我們在網路上蒐集到這些相關的討論、資訊與評價

ทำไม สิงคโปร์ จึงเป็นประเทศแห่ง บริการทางการเงิน ? /โดย ลงทุนแมน
ประเทศเกาะเล็ก ๆ แห่งนี้มีประชากรเพียงราว ๆ 5.7 ล้านคน
แต่สามารถส่งออกบริการด้านการเงินมากเป็นอันดับ 1 ของทวีปเอเชีย
คิดเป็นมูลค่าถึง 1,210,000 ล้านบาท ในปี 2019

จากการจัดอันดับเมืองศูนย์กลางการเงินโลกของ Long Finance ประจำปี 2021
สิงคโปร์คือศูนย์กลางการเงินอันดับ 5
เป็นรองเพียงนิวยอร์ก กรุงลอนดอน และเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นมหานครหลักของประเทศมหาอำนาจ
กับฮ่องกง ที่เป็นเมืองเชื่อมต่อธุรกิจระหว่างโลกกับจีนแผ่นดินใหญ่

สำหรับประเทศเกาะเล็ก ๆ ที่เพิ่งก่อตั้งในปี 1965 และแทบไม่มีทรัพยากรธรรมชาติอะไรเลย
แม้แต่น้ำจืดก็ยังขาดแคลนจนต้องนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน

แต่สามารถเติบโตจนแซงหน้ามหานครในหลายประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่กว่า
และก้าวขึ้นมาอยู่ระดับแถวหน้าของโลกได้ภายในเวลาไม่ถึง 50 ปี..

ความมหัศจรรย์ทางเศรษฐกิจของสิงคโปร์ มีเส้นทางเป็นอย่างไร ?
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ยินดีต้อนรับเข้าสู่ซีรีส์บทความ “Branding the Nation” ปั้นแบรนด์ แทนประเทศ
ตอน ทำไม สิงคโปร์ จึงเป็นประเทศแห่ง บริการทางการเงิน ?

ถึงแม้ประเทศจะมีขนาดเล็ก ไม่ค่อยเหมาะสมกับการเพาะปลูก และแทบไม่มีทรัพยากรอะไรเลย
แต่เกาะสิงคโปร์ยังมีความโชคดีอยู่ประการหนึ่ง คือ
“ทำเลที่ตั้งที่อยู่ปลายสุดของคาบสมุทรมลายู”

ทำเลนี้เป็นจุดสำคัญของเส้นทางเดินเรือ ที่เชื่อมต่อระหว่างเอเชียตะวันออก กับอินเดียและยุโรป
ในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 อังกฤษรวบรวมดินแดนแถบนี้และเรียกว่า “อาณานิคมช่องแคบ”

สิงคโปร์จึงถูกวางให้เป็นเมืองท่าสำคัญของบริษัท บริติช อีสต์ อินเดีย ซึ่งเป็นบริษัทที่เดินเรือทำการค้าขายระหว่างยุโรป กับอินเดียและโลกตะวันออก

ต่อมาเมื่อมีการปฏิวัติอุตสาหกรรมในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 เกิดอุตสาหกรรมอาหารกระป๋องที่ได้รับความนิยมสูงในยุโรป แร่ธาตุที่จะนำมาทำกระป๋องก็คือ ดีบุก ซึ่งพบมากแถบคาบสมุทรมลายู เมืองท่าสิงคโปร์จึงถูกพัฒนาให้เป็นตลาดค้าดีบุกที่สำคัญของโลก

นอกจากดีบุกแล้ว การนำยางพาราเข้ามาปลูกในแถบมลายูในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน
ก็ทำให้สิงคโปร์กลายเป็นศูนย์กลางของตลาดประมูลยางพาราอีกหนึ่งตำแหน่ง

การเป็นทั้งเมืองท่า เป็นศูนย์กลางการค้าดีบุกและยางพารา ส่งผลให้การแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศในสิงคโปร์คึกคัก ดึงดูดชาวต่างชาติให้เข้ามาเปิดกิจการธนาคาร

ธนาคารต่างชาติแห่งแรกที่เข้ามาเปิดทำการในสิงคโปร์ คือ The Union Bank of Calcutta
เปิดในปี 1840 มีการจัดตั้งสกุลเงินประจำอาณานิคมช่องแคบ คือ Straits Dollar ในปี 1845

ส่วนธนาคารแห่งแรกที่ก่อตั้งในสิงคโปร์ ก่อตั้งโดยชาวจีนโพ้นทะเลที่อพยพมาจากกวางตุ้ง
ชื่อว่า Kwong Yik Bank ในปี 1903 และหลังจากนั้นก็ตามมาด้วยธนาคารอีกหลายแห่ง

แต่ก็มีธนาคารมากมายที่ล้มหายตายจาก หรือถูกควบรวมกับธนาคารอื่น ๆ
ส่วนธนาคารที่ยังดำเนินการมาจนถึงปัจจุบันก็คือ

OCBC หรือ Oversea-Chinese Banking Corporation Limited ซึ่งเกิดจากการควบรวมธนาคารของชาวจีนฮกเกี้ยน 3 แห่ง ในปี 1932

และอีกธนาคารหนึ่งก็คือ UOB หรือ United Overseas Bank ซึ่งก่อตั้งโดยชาวมาเลย์เชื้อสายจีนในปี 1935

แต่ท่ามกลางการวางรากฐานด้านการเงินการธนาคารของสิงคโปร์
การเติบโตทางเศรษฐกิจของเมืองท่าแห่งนี้ต้องหยุดชะงักลงในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เพราะถูกยึดครองโดยกองทัพญี่ปุ่น

เมื่อหลังจบสงคราม อาณานิคมช่องแคบได้รับเอกราชจากอังกฤษ และสิงคโปร์ก็ได้ขอรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของมาเลเซีย ในปี 1963

แต่ด้วยปัญหาความขัดแย้งด้านเชื้อชาติ และอุดมการณ์ทางการเมือง
ท้ายที่สุดสิงคโปร์จึงแยกตัวออกจากมาเลเซีย และก่อตั้งประเทศในปี 1965
พร้อมกับตั้งสกุลเงินดอลลาร์สิงคโปร์ของตัวเองในอีก 2 ปีถัดมา

สิงคโปร์ถือกำเนิดประเทศด้วยการไม่มีทรัพยากรอะไรเลย
และเต็มไปด้วยแรงงานชาวจีนที่หลั่งไหลมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ในช่วงหลังสงครามโลก

ลี กวน ยู (Lee Kuan Yew) นายกรัฐมนตรีคนแรกของสิงคโปร์ จึงให้ความสำคัญกับเรื่องสวัสดิภาพความเป็นอยู่ รวมไปถึงการสร้างทักษะให้กับแรงงาน ต่อยอดจากการเป็นเมืองท่าค้าขาย

มีการจัดตั้ง Housing and Development Board เพื่อดูแลในเรื่องที่พักอาศัย
และสร้างนิคมอุตสาหกรรมในเขต Jurong ทางตะวันตกของเกาะ
เพื่อสร้างงานในภาคอุตสาหกรรม

โครงการพัฒนาขนาดใหญ่ทั้ง 2 โครงการ ต้องใช้เงินลงทุนสูง รัฐบาลสิงคโปร์จึงลงทุนเองบางส่วนในโครงการเหล่านี้ และได้ตั้ง The Development Bank of Singapore Limited หรือ ธนาคาร DBS ในปี 1968 เพื่อรองรับเงินทุน กระตุ้นให้เงินทุนหมุนเวียน และโครงการพัฒนาดำเนินไปอย่างราบรื่น

เมื่อผู้คนมีที่อยู่อาศัย มีงานทำ และค่อย ๆ หลุดพ้นจากความยากจนแล้ว รัฐบาลก็ต้องวางแผนต่อเนื่องเพื่อให้เศรษฐกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน

ประการแรก: พัฒนาการศึกษา

เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดของประเทศที่ขาดแคลนทรัพยากรอย่างสิงคโปร์ ก็คือ “ทรัพยากรมนุษย์”
รัฐบาลสิงคโปร์จึงให้ความสำคัญต่อนโยบายการศึกษาอย่างสูงสุด โดยมีการปฏิรูปคุณภาพของระบบ และมาตรฐานการเรียนการสอนอย่างต่อเนื่อง

เริ่มจากการมีบุคลากรครูคุณภาพสูง โดยครูทุกคนต้องจบการศึกษาในด้านที่เกี่ยวข้อง หลังจบการศึกษาต้องเข้ารับการฝึกอบรมวิชาชีพครูจากสถาบันการศึกษาแห่งชาติสิงคโปร์ (National Institute of Education หรือ NIE) เป็นเวลา 1 ปี เมื่อปฏิบัติหน้าที่ครูแล้วต้องได้รับการประเมิน และพัฒนาในทุก ๆ ปี

และด้วยความหลากหลายทางเชื้อชาติและภาษาของผู้คนในสิงคโปร์ ที่มีทั้งชาวจีน ชาวมาเลย์ ชาวทมิฬ ซึ่งแต่ละเชื้อชาติต่างก็มีการใช้ภาษาเป็นของตัวเองแตกต่างกันไป
สิ่งที่จะหลอมรวมให้คนทุกเชื้อชาติสามารถอยู่ร่วมกันก็คือ

“ชาวสิงคโปร์ทุกคนจะต้องสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้”

นำมาสู่ระบบการเรียนการสอนสองภาษา ที่มีการใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก
ส่วนภาษาที่สองก็เป็นภาษาของแต่ละเชื้อชาติ

รัฐบาลสิงคโปร์ยังได้สร้างทางเลือกในการศึกษาระดับมัธยมให้กับประชาชน โดยแบ่งเป็น
หลักสูตรมัธยมศึกษาเชิงวิชาการ สำหรับนักเรียนที่มุ่งเรียนต่อในมหาวิทยาลัย
และหลักสูตรมัธยมศึกษาโพลีเทคนิค สำหรับนักเรียนที่มุ่งเรียนต่อในสายอาชีวะ

ซึ่งรัฐบาลสิงคโปร์ก็ผลักดันมาตรฐานในการเรียนสายอาชีวะให้มีคุณภาพสูง
เพราะมองว่านักเรียนแต่ละคนมีความถนัดทางวิชาการไม่เท่ากัน และสายอาชีวะสามารถผลิตบุคลากรเพื่อป้อนตลาดแรงงานในทันที

โดยหนึ่งในสายวิชาชีพ ที่รัฐบาลผลักดันตั้งแต่การก่อตั้งวิทยาลัยอาชีวะแห่งแรก ๆ ก็คือ “นักบัญชี”

สำหรับการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย มีการจัดตั้ง National University of Singapore (NUS) ที่เกิดจากการควบรวมมหาวิทยาลัย 2 แห่งในปี 1980 และเริ่มพัฒนาหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการ โดยจัดตั้ง NUS Entrepreneurship Centre ในปี 1988

ซึ่งในปีการศึกษา 2022 มหาวิทยาลัยแห่งนี้ ก็เป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดอันดับ 1 ของทวีปเอเชีย
จากการจัดอันดับโดย QS

ต่อมาในปี 1981 มีการจัดตั้ง Nanyang Technological University (NTU)
ซึ่งก็กลายเป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดอันดับ 2 ของทวีปเอเชีย
โดยมี Nanyang Business School เป็นสถาบันด้านบริหารธุรกิจอันดับ 1 ของสิงคโปร์

เมื่อสร้างแรงงานที่เป็นที่ต้องการของตลาด โดยเฉพาะในภาคบริหารธุรกิจและการเงิน รวมไปถึงด้านกฎหมาย และแรงงานส่วนใหญ่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี

ปัจจัยเหล่านี้จึงเป็นสิ่งสำคัญ ทำให้สิงคโปร์มีความเป็นเมืองนานาชาติ และมีข้อได้เปรียบดึงดูดบริษัทต่างชาติ โดยเฉพาะสถาบันการเงิน บริษัทด้านบัญชี และกฎหมาย ให้เลือกมาตั้งสำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาคในสิงคโปร์

รัฐบาลได้จัดตั้ง ธนาคารกลางแห่งสิงคโปร์ (Monetary Authority of Singapore หรือ MAS) ในปี 1971 เพื่อควบคุมสถาบันการเงิน และบริหารจัดการนโยบายทางการเงิน

ด้วยความที่สิงคโปร์เป็นประเทศขนาดเล็กและเป็นเมืองท่าค้าขาย และพึ่งพาการค้าจากต่างประเทศสูงมาก สิงคโปร์จึงอาศัยกลไก “อัตราแลกเปลี่ยน” เป็นเครื่องมือในการดำเนินนโยบายการเงิน ภายใต้การบริหารจัดการของ MAS

ประการที่ 2: ปฏิรูประบบราชการ

เมื่อวางแผนระบบการศึกษาเพื่อสร้างแรงงานที่มีคุณภาพแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องพัฒนาเพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติก็คือ “ความโปร่งใส”

ในช่วงหลังการแยกตัวเป็นเอกราช
สิงคโปร์เคยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการคอร์รัปชันสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก

รัฐบาลภายใต้การนำของนายก ลี กวน ยู ได้ย้ายสำนักสืบสวนการทุจริตคอร์รัปชัน (Corrupt Practices Investigation Bureau หรือ CPIB)
ซึ่งเป็นองค์กรที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1952 มาอยู่ภายใต้สำนักนายกรัฐมนตรี

และทำการปฏิรูปกฎหมายป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชัน ให้ยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ
ทั้งการตัดสินลงโทษผู้ต้องหาโดยไม่ต้องมีหลักฐานชัดเจน แค่มีพฤติกรรมโน้มเอียงไปในทางไม่ซื่อสัตย์ก็สามารถตัดสินได้ หากผู้ต้องหาถูกตัดสินว่าผิดจริง ก็จะได้รับโทษอย่างรุนแรง

นอกจากโทษทางกฎหมายแล้ว ยังต้องชดใช้ค่าเสียหายเท่ากับจำนวนเงินที่ทำการทุจริตด้วย

หลังจากตัวบทกฎหมาย และกระบวนการลงโทษเริ่มเข้าที่เข้าทาง
ขั้นต่อมา คือการเพิ่มผลตอบแทนให้ข้าราชการ โดยเริ่มในปี 1989
เพื่อจูงใจให้คนเก่งเข้ารับราชการ และลดการรับสินบนของเจ้าหน้าที่รัฐ

รัฐบาลสิงคโปร์ใช้เวลาต่อสู้กับการคอร์รัปชันมาเป็นเวลากว่า 50 ปี
จนสิงคโปร์กลายเป็นประเทศที่มีดัชนีความโปร่งใส (Corruption Perceptions Index)
สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก ในปี 2020

เมื่อประเทศมีความโปร่งใส ก็ดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ ในขณะที่รัฐบาลก็มีเงินมาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น ทั้งการคมนาคมขนส่ง ไปจนถึงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ

รัฐบาลสิงคโปร์ยังได้ก่อตั้ง คณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจ (Economic Development Board หรือ EDB) เพื่อวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจที่ชัดเจน

จากเมืองท่าปลอดภาษี ในช่วงทศวรรษ 1970s สิงคโปร์ต่อยอดมาสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และปิโตรเคมี ในทศวรรษ 1980s

และในช่วงทศวรรษ 1990s ประเทศแห่งนี้ก็เปลี่ยนไปเป็นศูนย์กลางบริการทางการเงินของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ประการที่ 3: พัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ

รัฐบาลสิงคโปร์ได้จัดตั้ง The Smart Nation and Digital Government Group หรือ SNDGG รับผิดชอบในการเปลี่ยนแปลงบริการต่าง ๆ ของภาครัฐสู่ระบบดิจิทัล เพื่อเก็บข้อมูล และประยุกต์ใช้ในการวางแผนพัฒนาประเทศ ทำให้รัฐบาลสิงคโปร์มี Big Data โดยเฉพาะข้อมูลทางการเงิน

รัฐบาลจึงสามารถตรวจสอบเส้นทางทางการเงินได้ ป้องกันการฟอกเงิน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เองทำให้สิงคโปร์ได้รับความน่าเชื่อถือ สามารถเป็นศูนย์กลางทางการเงิน

รัฐบาลยังต่อยอดและให้การสนับสนุนเทคโนโลยีทางการเงิน หรือ FinTech โดยมีเป้าหมายเพื่อผลักดันให้สิงคโปร์เป็น The FinTech Nation

ทั้งการเปิดให้บริษัท FinTech จากทั่วโลก ขอใบอนุญาต Digital Banking ได้เต็มรูปแบบ
ไม่ปิดกั้นเฉพาะองค์กรในสิงคโปร์ และให้การสนับสนุนนวัตกรรมทางการเงินหลายรูปแบบ
ทั้งระบบชำระเงิน, บล็อกเชน ไปจนถึงเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์

ในขณะที่ธนาคารกลางสิงคโปร์ ก็เป็นผู้ริเริ่มจัดงาน Singapore FinTech Festival ซึ่งจัดขึ้นครั้งแรกในปี 2016 และจัดขึ้นติดต่อกันมาเป็นประจำทุกปี ซึ่งถือว่าเป็นมหกรรม FinTech ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ปัจจุบัน ธนาคารสิงคโปร์ที่ใหญ่ที่สุด 3 แห่ง คือ DBS, OCBC และ UOB
ล้วนเป็น 3 ธนาคารที่ใหญ่อันดับต้น ๆ ในภูมิภาคอาเซียน มีผลิตภัณฑ์การเงินที่หลากหลาย ทั้งประกันภัย ผลิตภัณฑ์การลงทุนต่าง ๆ ไปจนถึงสกุลเงินดิจิทัล

ภาคบริการการเงินคิดเป็นสัดส่วนราว 7.4% ของการส่งออกสินค้าและบริการของสิงคโปร์ ซึ่งบริการขั้นสูงเหล่านี้ มีส่วนสำคัญที่ผลักดัน GDP ต่อหัวของชาวสิงคโปร์ให้สูงขึ้นเรื่อย ๆ

ในปี 1965 ที่ก่อตั้งประเทศ ชาวสิงคโปร์เคยมี GDP ต่อหัวน้อยกว่า เจ้าอาณานิคมอย่างสหราชอาณาจักร ประเทศแห่งนวัตกรรมอย่างเยอรมนี หรือประเทศมหาอำนาจในเอเชียอย่างญี่ปุ่น

แต่ในปี 2020 GDP ต่อหัวชาวสิงคโปร์แซงหน้าประเทศเหล่านี้ทั้งหมด และมากเป็นเกือบ 1.5 เท่า ของอดีตเจ้าอาณานิคม..

เรื่องทั้งหมดนี้เกิดจากการวางแผนระยะยาว
ทั้งการเตรียมทรัพยากรมนุษย์ให้พร้อมสำหรับงานบริการ
การพัฒนาประเทศให้โปร่งใสและมีความน่าเชื่อถือในระดับสากล
รวมไปถึงการช่วยเหลือของภาครัฐในทุก ๆ ด้าน

จากเมืองท่าศูนย์กลางการค้า สิงคโปร์ก้าวขึ้นมาเป็นศูนย์กลางการเงินของภูมิภาค และกำลังจะกลายเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีทางการเงินแห่งศตวรรษที่ 21

เรื่องราวของประเทศเกาะมหัศจรรย์แห่งนี้ บอกให้เรารู้ว่า
เมื่อเริ่มเป็นศูนย์กลางอะไรสักอย่าง และสั่งสมประสบการณ์จนมากพอแล้ว
ก็จะง่ายในการดึงดูดสิ่งใหม่ ๆ และกลายเป็นศูนย์กลางด้านอื่น ๆ เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
และในวันนี้ สิงคโปร์กำลังเตรียมพร้อมทุกอย่าง
สำหรับการเป็นศูนย์กลางอีกหลายด้าน ที่กำลังจะเกิดขึ้นในโลกอนาคต..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-http://prp.trf.or.th/download/2538/
-https://atlas.cid.harvard.edu/explore?country=undefined&product=404&year=2019&productClass=HS&target=Product&partner=undefined&startYear=undefined
-https://remembersingapore.org/2011/10/07/money-never-sleeps-a-brief-history-of-banking-in-sg/
-https://lkyspp.nus.edu.sg/docs/default-source/case-studies/entry-1516-singapores_transformation_into_a_global_financial_hub.pdf
-https://data.worldbank.org/indicator/NY.GDP.PCAP.CD?locations=SG-GB-JP-DE
-https://www.moneyandbanking.co.th/article/news/dbs-cryptocurrency-trading-130964?fbclid=IwAR2VVHEH9_n29fpyXSQ6EgSGDm63Lhm3aQF0aj7I8LIQ_B2wgjIXSazIVxU

Introducing the new Iconic Motion fromDaniel Wellington! It is their sportiest and first water-resistant (up to 10ATM) timepiece with an all-new strap made from quality synthetic rubber. Combining the practicalities with a playful yet minimalistic aesthetic, the Iconic Motion is an ideal everyday watch and it comes in different dial sizes (32mm & 40mm) in rose gold or silver colors. It is incredibly comfortable to wear whilst going for a swim, working out or a perfect complement to any outfits for special occasions! Time to set your style in motion and explore more now at www.danielwellington.com or any official retail stores in Singapore & Malaysia!

#DanielWellington #IconicMotion #DWinMY #DWMalaysia

Instagram : leona_yew

TÌM LẠI ĐAM MÊ - TỪ HBCP MEXT ĐẾN ERASMUS MUNDUS

Ai cũng có những ước mơ cho riêng mình, thế nhưng, người khiến nó chết yểu ngay từ trong trứng nước, người lại vun xới, nuôi dưỡng nó bằng cả đam mê. Hôm nay chị sẽ chia sẻ 1 câu chuyện về cô bạn của chị - người đã từng từ bỏ nhưng cuối cùng cô ấy đã tìm lại niềm đam mê với nghiên cứu khoa học, nuôi dưỡng và phát triển nó đến tận bây giờ. Ngoài câu chuyện apply học bổng ra thì bạn ấy cũng có rất nhiều lời khuyên và tips học tập dành cho các Schofans nhà mình.

Trước tiên, chúng ta cùng điểm qua 1 vài thành tích nổi bật của Linh nhé:

- Cựu học sinh chuyên Sinh khóa 11 – 14 trường THPT Chuyên Hà Nội.
Amsterdam
- Giải tư kỳ thi INTEL ISEF quốc tế tại Hoa Kỳ năm 2013
- Tuyển thẳng vào 7 trường đại học tại Việt Nam: Đại học Y Hà Nội, Đại học Ngoại thương, Đại học Khoa học tự nhiên, Đại học Sư phạm,…
- Thành viên Trung tâm Phát triển Tài Năng Trẻ FPT - FYT Young Talent
- Diễn giả chia sẻ về kinh nghiệm apply học bổng du học tại Trường hè Khoa Học năm 2016.
- Học bổng toàn phần chính phủ Nhật - MEXT bậc đại học – Đại học Kyushu.
- Học bổng thực tập tại National Institute of Basic Biology Japan.
- Học bổng thực tập tại khoa Y, University of Auckland, New Zealand.
- Tham gia chương trình Entrepreneurship Bootcamp tại MIT và Harvard University.
- Tham gia chương trình APYPW tại Hàn Quốc bàn về vấn đề nước sạch.
- Ban chủ tịch Hội thanh niên sinh viên Việt Nam tại Fukuoka.
- Uỷ viên Hội giao lưu sinh viên quốc tế thành phố Fukuoka, Nhật Bản.
- Học bổng Erasmus Mundus chương trình International Master in Innovative Medicine tại University of Groningen và Uppsala University.

I) Vừa học chuyên ngành vừa học ngoại ngữ.

- Tiếng Anh: Khi còn là học sinh ở Ams, Linh phải tiếp xúc khá nhiều với tiếng Anh, hơn nữa việc tham gia các hội nghị, các cuộc thi quốc tế đã tạo cho Linh 1 nền tảng tiếng Anh khá chắc chắn. Khi apply học bổng, Linh chỉ mất 2 tuần để ôn thi và luyện thi IELTS.

- Tiếng Nhật: Mặc dù chương trình học của Linh là bằng tiếng Anh nhưng để có nhiều cơ hội và trải nghiệm hơn, Linh đã quyết định đầu tư thêm vốn tiếng Nhật của mình. Ngoài lớp tiếng Nhật cơ bản trên trường, bạn cũng làm những công việc bán thời gian để có điều kiện giao tiếp với người Nhật, nâng cao trình độ tiếng Nhật của bản thân, và sau 3 năm ở Nhật, cô bạn đã lấy được JLPT N2.

II) MEXT và 4 năm ở Nhật.

1) Lý do chọn MEXT.

Sau khi tốt nghiệp THPT, vì lí do cá nhân mà Linh quyết định theo học khoa Kinh tế Đối Ngoại tại Đại học Ngoại thương – 1 ngành trái ngược hoàn toàn với đam mê những ngày cấp 3 của bạn là sinh học. Năm nhất làm sinh viên tại FTU nhưng Linh lại có duyên với nhiều hoạt động khoa học. Linh tham gia tổ chức các hội trại khoa học hướng dẫn các thí nghiệm vui cho trẻ em vùng sâu vùng xa. Trong 1 lần nói chuyện với 1 em nhỏ tham dự hội trại, em ấy đã nói với Linh: “Sau này, em muốn trở thành nhà khoa học”, câu nói ấy đã khiến Linh suy nghĩ. Trong Trường Hè Khoa Học Việt Nam năm 2015, 1 nữ tiến sĩ đã phát biểu về những khó khăn khi nữ giới theo đuổi khoa học, nhưng cô ấy cũng khuyên tất cả mọi người hãy vượt lên những trở ngại về giới tính, về hoàn cảnh gia đình để theo đuổi giấc mơ tới cùng. Sau những trải nghiệm ấy trong năm nhất tại FTU, ngọn lửa đam mê của Linh được thổi bùng 1 lần nữa, và Linh đã quyết định quay lại nghiên cứu khoa học.

Tại thời điểm Linh muốn quay lại nghiên cứu sinh học, mẹ của Linh đã nói chỉ khi được học bổng toàn phần mới cho đi du học. Có dịp ghé thăm Nhật năm 2013, ấn tượng bởi đất nước xinh đẹp và con người nơi đây, Linh đã quyết định lựa chọn Nhật Bản. Nhật Bản là 1 đất nước cực kỳ phát triển về nghiên cứu sinh học, có các lab nghiên cứu khoa học thuộc top đầu châu Á. Đại học Hoàng Gia Kyushu là một trong 7 trường quốc lập và cũng nằm trong số ít các trường có chương trình giảng dạy bằng tiếng Anh về công nghệ sinh học với học bổng toàn phần MEXT. Và Linh đã quyết định apply.

2) Quá trình apply + Tips:

- LOR: Nộp HB MEXT không yêu cầu thư giới thiệu, nhưng xét thấy việc nộp kèm thư sẽ giúp tăng sức nặng cho bộ hồ sơ, Linh đã xin 3 thư giới thiệu khác nhau. Linh đã xin 1 thư từ giáo viên chủ nhiệm: nói về quá trình học tập trên lớp, 1 thư từ thầy hướng dẫn nghiên cứu: nói về quá trình làm nghiên cứu và 1 thư từ hiệu trưởng trường Ams khi đó: nói về bản thân dưới góc nhìn của một người đứng đầu toàn trường. Việc xin 3 thư từ 3 giáo viên khác nhau sẽ thể hiện được toàn diện nhiều khía cạnh của bản thân. Các bạn apply MEXT nếu có thể nên thử xin 1 thư từ hiệu trưởng nhé.

-SOP: có 3 bài luận, mỗi bài 500 từ. Chủ đề lần lượt là: tại sao lại apply chương trình này tại Đại học Kyushu , tự nói về bản thân và tại sao bạn lại phù hợp với học bổng. Với Linh, bài SOP thứ 2 là bài khó nhằn nhất. Linh đã nói về quá trình mà Linh quay lại nghiên cứu khoa học, và kết thúc bài luận bằng câu nói của cậu bé ngày trước: “I want to be a scientist”. Khi viết SOP các bạn hãy đọc nhiều nguồn khác nhau và tự mình bắt đầu viết. Sau đó thì hãy đưa cho bạn bè và nhờ học góp ý. Lời khuyên của Linh là nên nhờ nhiều người khác nhau vì có những người họ rất bận thường mình chỉ nên làm phiền 1 lần, hoặc có người họ giỏi tiếng Anh nhưng lại không giỏi trong viết hay lập luận câu chữ. Khi đã sửa lại các ý trong bài thì quay lại chau chuốt ngôn từ, dùng những từ học thuật, văn hoa hơn. Và lần sửa bài cuối cùng sẽ do người bản xứ sửa, rồi mình gửi bài thôi.

-Tips phỏng vấn: Chắc chắn là họ sẽ hỏi những câu hỏi kinh điển kiểu như “tại sao lại apply, tại sao lại thấy mình phù hợp”, nên các bạn cứ chuẩn bị trước. Ngoài ra khi phỏng vấn phải tự tin, trả lời rõ ràng rành mạch. Trước khi phỏng vấn, các bạn nên vận động nhẹ nhàng 1 chút, khi đó cơ thể sẽ tiết ra 1 loại hoocmon là endorphins giúp bạn cảm thấy hưng phấn, giảm stress, tự tin sẵn sàng bước vào buổi phỏng vấn...

3) 4 năm sinh sống tại Nhật

4 năm sống ở Nhật đã cho Linh rất nhiều trải nghiệm khác nhau. Trải nghiệm đầu tiên là có một chút khác biệt văn hoá. Lớp của Linh có khoảng 30 người đến từ những quốc gia khác nhau, thế nên cách nói chuyện, cách làm việc cũng khác. Khi nghiên cứu ở lab, trong lab chỉ có Linh là người nước ngoài duy nhất, thầy cô và các bạn đều là người Nhật. Linh cũng tham gia làm thêm ở trong campus của trường, và cũng dạy tiếng Việt tiếng Anh cho người Nhật nữa.

Các bạn hãy tận dụng khoảng thời gian ở Nhật để xin các học bổng trao đổi, ngắn hạn, thực tập. Bởi khi đó, hồ sơ của các bạn sẽ được tính như người đang sống tại Nhật. Mà ở Nhật thì những học bổng ngắn hạn này chưa được phổ biến nên sẽ BỚT CẠNH TRANH hơn nhé. Học ở Nhật 4 năm, nhưng Linh tận dụng các cơ hội và thành công đặt chân đến 9 quốc gia và đều được đài thọ 100% như: Hàn Quốc, Đài Loan, Mỹ, New Zealand Trung Quốc, Singapore,...

III) Erasmus Mundus

1) Lí do apply: Linh đã đặt chân đến châu Á, châu Mỹ, châu Úc, còn lại châu Âu và châu Phi nên cô bạn thích khám phá thế giới của chúng ta quyết định chọn châu Âu là chặng dừng tiếp theo trong sự nghiệp học tập và nghiên cứu. Chương trình International Master in Innovative Medicine (IMIM) sẽ giúp Linh mở rộng đào sâu kiến thức trong lĩnh vực Y Sinh đồng thời là cơ hội thực tập trong môi trường industry.

2) Quá trình apply

Với Linh, quá trình apply Erasmus “dễ thở” hơn rất nhiều vì bạn đã có nhiều kinh nghiệm apply và phỏng vấn nên biết cái gì là quan trọng. Mọi người nên chuẩn bị các giấy tờ thật sớm. Khi xin LOR cũng phải “nhắm trước”. Linh sẽ lựa lời dặn trước các thầy cô khoảng 1 tháng là mình cần thư giới thiệu, và trước deadline 2 tuần Linh sẽ nhắc khéo thầy cô. Các giáo sư có lịch trình bận rộn nên đôi khi nói sớm quá thầy cô bận rồi quên mất.

SOP là bài luận 750 từ. Chương trình có yêu cầu bài luận phải trả lời đủ 6 câu hỏi mà họ đặt ra. Khi viết và sửa bài, luôn đặt mình vào tâm thế kiểm tra xem mình đã trả lời đủ 6 câu hỏi kia chưa. Mỗi câu văn trong bài đều lưu ý xem có thực sự cần thiết cho bài không, nếu không, dứt khoát gạch bỏ.

Sau khi hoàn thành mọi giấy tờ, hồ sơ, các bạn nên dành 1 tuần đi chơi xả láng, bỏ hết mọi thứ trong đầu ra. Đi chơi giúp đầu óc sảng khoái, đến khi đề về, lúc đó bạn nhìn vào bộ hồ sơ 1 lần nữa với một con mắt khác, tốt cho việc đánh giá lại lần cuối, sẽ phát hiện ra 1 số lỗi sai còn tồn đọng trước khi chính thức submit. .

Tips: - Khi apply, các bạn phải nắm được deadline và xây dựng 1 lộ trình rõ ràng chia theo tháng.
- Khi phỏng vấn Erasmus (tùy chương trình sẽ có phỏng vấn), họ đưa cho Linh 4 bài báo khoa học rồi yêu cầu trình bày lại 1 bài trong 5 phút, sau đó họ hỏi 5 phút,… Lúc đó thì các bạn đừng hồi hộp, lo lắng, mà hãy tập trung ghi nhớ những thông tin cốt lõi của công trình nghiên cứu khoa học và trình bày thật tự tin nhé. (Cụ thể quá trình phỏng vấn EM như thế nào bạn có thể tìm đọc trên blog Linh’s Stories nhé)

IV) Science

Linh bắt đầu hành trình tìm lại đam mê và nghiên cứu khoa học của mình khi đến Nhật vào năm 2016. Đến hè năm 2017, nhờ có kinh nghiệm nghiên cứu hệ thống lọc nước di động, bạn có dịp sang Hàn Quốc để thảo luận các vấn đề liên quan đến bảo vệ môi trường nước sạch. Sang năm 2018, Linh bắt đầu đi sâu hơn vào thế giới của tin sinh và sinh học phân tử qua đợt thực tập tại National Institute of Basic Biology tại Nhật Bản. Một môi trường nghiên cứu mới, một đề tài mới, một lĩnh vực mới toanh chuyên về RNA. Sang đến năm 2019, Linh lựa chọn làm luận án tại đại học Kyushu về lĩnh vực cấu trúc sinh học và hóa sinh, làm chuyên về protein. Năm 2020, Linh lại qua New Zealand với đề tài thuộc về lĩnh vực vaccine và bệnh truyền nhiễm. Mỗi một lần dịch chuyển của cô bạn, lại là một đất nước mới, một môi trường làm việc mới. Nhờ có khoa học, bạn không chỉ được khám phá những vùng đất ở khắp năm châu bốn bể, lại được đắm chìm trong các đề tài nghiên cứu khoa học đa dạng ở nhiều cấp độ khác nhau từ DNA, RNA, protein, từ khoa học cơ bản đến khoa học ứng dụng. Trong một phần thảo luận với các thầy cô tại Hà Lan gần đây, nhìn lại quá trình mình đi qua, Linh đã trả lời về lí do yêu thích khoa học “Science is fantastic. It allows me to explore the world”

Chúng ta vừa đọc 1 bài chia sẻ rất dài về quá trình học tập và apply học bổng Linh. Chị biết đó chỉ là phần nổi của tảng băng chìm, còn rất nhiều khó khăn, áp lực mà Linh còn phải đối mặt. Nhưng dù thế nào đi nữa, chị cũng hy vọng không chỉ Linh mà tất cả các Schofans đều có thể đưa ra những giải pháp tối ưu nhất để giải quyết khó khăn của mình.

Những bạn nào muốn apply, thì các em hãy note lại những ý quan trọng nhé. Linh cũng có 1 blog cá nhân có tên Linh’s Stories chia sẻ kinh nghiệm của bạn trong quá trình apply học bổng đại học, thạc sĩ, thực tập ngắn hạn. Thêm vào đó là các bài chia sẻ về việc học tiếng Anh và tiếng Nhật cực kì cực kì bổ ích. Các em có thể theo dõi blog tại: https://www.facebook.com/likiwi1010
-----------------------------------
Chị cũng từng hướng dẫn rất nhiều bạn apply MEXT và Erasmus rồi nên bạn nào muốn hỏi thông tin thì cứ inbox chị bất cứ lúc nào nhé.
Các bạn muốn xin học bổng trong và ngoài nước, đừng quên lớp học bổng Hannh Ed, chương trình Mentor 1-1, review hồ sơ luôn sẵn sàng để hỗ trợ các bạn nhé. Các bạn cứ gửi email thoải mái cho chị [email protected] hoặc nhắn tin cho page
Lịch học của lớp: https://airtable.com/shrg6CB2u1acEpnqb?fbclid=IwAR30OdDQhu3uWpepCmEIaVuMDxOEXK6dSXw91Q6EWqQYUaV3z2m3ruPIsqU
Link thông tin về các lớp học bổng: https://hannahed.co/lop-tim-va-nop-hoc-bong/?fbclid=IwAR1zJ2xCBRZRCOtCXRLzssbh0mdhlbq3zDiMyXeFdZFsRC4iArgdqu-MIuw


💙Các kênh thông tin bổ ích của HannahEd:
- Website: https://hannahed.co/
- Youtube HannahEd có nhiều video phân tích học bổng từ ngắn hạn tới cấp 3, Đại học, Thạc sỹ, Phd, Việc làm (Facebook office tour..vv): https://bit.ly/3pZNAZF
- Instagram/Tiktok: @hannahed.co https://www.instagram.com/hannahed.co/
💙 Facebook Group
- Scholarship Hunters
- Học bổng ngắn hạn, trao đổi, tình nguyện - HannahEd
- English Club HEC
- Job Hunters & Career Builders - HannahEd
- Học bổng Chevening UK và IDEAS Ireland

Các bạn cũng có thể gửi CV, câu hỏi về email [email protected], fan page https://www.facebook.com/ScholarshipforVietnameseStudents/ và https://www.facebook.com/hoathanhdinh để được tư vấn miễn phí nhé.

#Hannahed #ScholarshipforVietnameseStudents #Erasmusmundus #MEXT #Amsterdam

This week, The Thirsty Sisters are back with their thoughts on the recent Population Census 2020 survey, where it was reported for women to be more educated than their male counterparts! Why are people on Facebook angry about this increase? Are women really smarter than men? ? We got Sylvia and Nina to react to all these—tune in to hear all about it!

Link to The Straits Times article: https://str.sg/34Sk
Link to the Facebook post: https://www.facebook.com/129011692114/posts/10157967528802115/?d=n

00:00 Intro
01:39 Topic of the day
03:18 Key statistics from the article
04:23 'Its a women problem'
06:27 Why we are having less children
11:00 How women balance work and family
13:30 Coping with your own and your child's issues
15:19 Are we ready to have children?
18:32 The new vs old mindset on single parenthood
21:34 Supporting women regardless of their decisions
22:50 Women are getting harder to get along with?!
26:42 Men have to pay on dates?
29:58 Not taking these comments at face value
32:46 Conclusion

Sylvia and Nina are not your typical influencers; they give it to you raw and real! Join them as they quench their never-ending thirst for wisdom, trends, success and men.

They explore hot and pressing issues you never thought you needed to know in this extremely in-depth podcast. Sisters, brothers and everyone in between or beyond; jump in and be thirsty!

*Disclaimers*
The legal age for sex in Singapore is 18. While being comfortable with your bodies is a must, please protect yourselves by using protection ?
https://singaporelegaladvice.com/law-articles/legal-age-for-sex-in-singapore/

Our views in this podcast include only our own experiences as heterosexual women in Singapore, we respect everyone’s views regardless of genders, gender identities and sexual orientations.

Follow The Thirsty Sisters on Apple Podcasts, Spotify and Instagram!
https://podcasts.apple.com/sg/podcast/the-thirsty-sisters/id1509379792
https://www.instagram.com/thethirstysisterstts
https://open.spotify.com/show/5yx8txjfb7dMkosumEv6lQ?si=5Ew1dv6wRlCayZ0TQfo-Ug

Featuring:
Sylvia - https://www.instagram.com/sylsylnoc
Nina - https://www.instagram.com/ninatsf

Brand collaborations/features:
sales@noc.com.sg

The Thirsty Sisters TEAM
Co-Founders: Sylvia Chan | Nina Tan
Executive Producer: Sylvia Chan
Crew/Editors: Jade Liew | Winston Tay
Motion Graphics Designers: Bryan Seah | Kher Chyn
Sound Engineers: Nah Yu En | Mabel Leong
Digital Strategist: Winston Tay

Getting our Tarot Cards Read is all the buzz right now, yes?

The Thirsty Sisters are back with another episode this week, this time with Geraldine—a Tarot Card Reader and we forced Sylvia to have her Tarot Cards read. How does life after the divorce look for her, and has she moved on from it? What about her ex-husband? What do the cards say about it all? Tune in to find out ?

Geraldine has also kindly offered a very HUAT rate of $88 (U.P. $99) exclusively for our TTS community ? This offer is valid till 30 June 2021 or till she's fully booked so fastest fingers first!
Check out Geraldine on Instagram @friendlyneighbourhoodwitchsg

Timestamps
00:00 intro
01:14 Topic of the Day
02:54 Why Nina isn't getting a reading
03:52 Get to know a tarot card reader
07:26 How to prepare before a tarot reading
08:12 Theme of today's reading: Sylvia's divorce
09:18 Sylvia picks her cards
11:28 Was Sylvia's divorce hard to decide?
14:18 Is Sylvia on the right path?
16:00 A difficult decision is on the way?
18:15 Wedding bells for Sylvia?!
21:20 Will Sylvia fully step out from her divorce?
22:12 How good is Sylvia's reading?
24:30 Can Nina ask questions on Sylvia's behalf?
25:41 How does Ryan feel about Sylvia?
28:05 Is Ryan happy with Sylvia?
29:46 Is Mandy happy with Sylvia's body size?
31:38 Questions from the TTS community ?
32:01 Will COVID-19 end this year?!
33:34 Will TTS make any impact?
34:56 Is Nina and Sylvia Chio Bu SG?!
37:10 How does tarot card reading empower us
38:46 Thoughts on the whole experience
42:05 Does Nina want a reading too?
43:07 Surprise for our TTS community
44:15 Shoutout to small female-owned businesses ?
45:22 Conclusion

Sylvia and Nina are not your typical influencers; they give it to you raw and real! Join them as they quench their never-ending thirst for wisdom, trends, success and men.

They explore hot and pressing issues you never thought you needed to know in this extremely in-depth podcast. Sisters, brothers and everyone in between or beyond; jump in and be thirsty!

*Disclaimers*
The legal age for sex in Singapore is 18. While being comfortable with your bodies is a must, please protect yourselves by using protection ?
https://singaporelegaladvice.com/law-articles/legal-age-for-sex-in-singapore/

Our views in this podcast include only our own experiences as heterosexual women in Singapore, we respect everyone’s views regardless of genders, gender identities and sexual orientations.

Follow The Thirsty Sisters on Apple Podcasts, Spotify and Instagram!
https://podcasts.apple.com/sg/podcast/the-thirsty-sisters/id1509379792
https://www.instagram.com/thethirstysisterstts
https://open.spotify.com/show/5yx8txjfb7dMkosumEv6lQ?si=5Ew1dv6wRlCayZ0TQfo-Ug

Featuring:
Sylvia - https://www.instagram.com/sylsylnoc
Nina - https://www.instagram.com/ninatsf

Brand collaborations/features:
sales@noc.com.sg

The Thirsty Sisters TEAM
Co-Founders: Sylvia Chan | Nina Tan
Executive Producer: Sylvia Chan
Crew/Editors: Jade Liew | Winston Tay
Motion Graphics Designers: Bryan Seah | Kher Chyn
Sound Engineers: Nah Yu En | Mabel Leong
Digital Strategist: Winston Tay

We found the key to make your partners with avoidant attachment styles (aka Nina) cringe and/or cry: Ask them 36 Questions to Fall in Love!

The Thirsty Sisters are back this week to grill each other with uncomfortable questions! But do they really work? Sylvia and Nina put it to the test and ask each other these vulnerable, intimate questions. Will this turn out surprisingly fuzzy or emotionally traumatic? Tune in to find out ❤️

Link to 36 Questions to Fall in Love: http://36questionsinlove.com/

00:00 Intro
01:15 Topic of the Day
02:09 Vulnerable = Fall in Love?
03:20 How we'll be doing the 36 Questions
04:34 These questions lead to marriage?
05:25 The perfect day for us
06:16 How will we die?
06:47 What do we have in common?
07:17 What are we most grateful for?
09:21 What would we change about the way we were raised?
11:05 What ability would we like to gain?
13:30 Would we ask these questions on a date?
15:22 What would we want to know from a crystal ball?
17:13 What we've dreamt of doing for a long time
20:16 What are our greatest accomplishments?
23:25 Nina is dying at this question
24:15 Our most treasured memories
27:34 Diving deep into Nina's unexpected reaction
29:17 Nina is having a mental breakdown
30:15 Our most terrible memories
33:52 How we would live if we were going to die soon
36:07 Nina is dying (figuratively)
37:06 When did we last cry?
40:26 What do we regret not saying to someone?
45:36 Our parent-child relationship struggles
47:00 What we would save in a fire
48:57 Set 1 vs Set 2 vs Set 3?
49:17 Did you fall in love with us?
50:02 Conclusion

Sylvia and Nina are not your typical influencers; they give it to you raw and real! Join them as they quench their never-ending thirst for wisdom, trends, success and men.

They explore hot and pressing issues you never thought you needed to know in this extremely in-depth podcast. Sisters, brothers and everyone in between or beyond; jump in and be thirsty!

*Disclaimers*
The legal age for sex in Singapore is 18. While being comfortable with your bodies is a must, please protect yourselves by using protection ?
https://singaporelegaladvice.com/law-articles/legal-age-for-sex-in-singapore/

Our views in this podcast include only our own experiences as heterosexual women in Singapore, we respect everyone’s views regardless of genders, gender identities and sexual orientations.

Follow The Thirsty Sisters on Apple Podcasts, Spotify and Instagram!
https://podcasts.apple.com/sg/podcast/the-thirsty-sisters/id1509379792
https://www.instagram.com/thethirstysisterstts
https://open.spotify.com/show/5yx8txjfb7dMkosumEv6lQ?si=5Ew1dv6wRlCayZ0TQfo-Ug

Featuring:
Sylvia - https://www.instagram.com/sylsylnoc
Nina - https://www.instagram.com/ninatsf

Brand collaborations/features:
sales@noc.com.sg

The Thirsty Sisters TEAM
Co-Founders: Sylvia Chan | Nina Tan
Executive Producer: Sylvia Chan
Crew/Editors: Jade Liew | Winston Tay
Motion Graphics Designers: Bryan Seah | Kher Chyn
Sound Engineers: Nah Yu En | Mabel Leong
Digital Strategist: Winston Tay