Back to the ghost radio #ย้อนรอยเรื่องเล่า
#เรื่องอิคิเรียว #คุณพีเค
#เล่าเรื่องหลอน #ฟังเรื่องผี #อ่านเรื่องย้อนรอย
________________________________________
•
เรื่องอิคิเรียว
เล่าโดย : พีเค
•
https://youtu.be/ks-M2EjDYi4
•
เป็นเรื่องราวความสยองขวัญจากตำนาน
ของประเทศญี่ปุ่น ที่คุณพีเคได้รับฟังมาจาก
เพื่อนชาวญี่ปุ่น เกี่ยวกับฆาตกรรมลี้ลับ
สยองขวัญ ที่แม้แต่ตำรวจก็ยังงงงวย
กับคดีที่เกิดขึ้น และไม่สามารถตามแกะ
ร่องรอยของฆาตกรได้
เรื่องราวจะจบลงเช่นไร ??
สุดท้ายแล้วฆาตกรคือใคร ??
สามารถติดตามรับชม รับฟังได้ที่
👉🏻 https://youtu.be/ks-M2EjDYi4
•
________________________________________
ชาวญี่ปุ่นมีความเชื่อว่า...
วิญญาณแบ่งออกเป็น 2 ประเภท
ได้แก่ วิญญาณคนเป็น “อิคิเรียว”
และวิญญาณคนตาย “ฌิเรียว”
เรามาทำความรู้จักกับ ตำนานลี้ลับของญี่ปุ่น
ที่คุณพีเคได้เล่าไว้ในเรื่อง #อิคิเรียว
ที่ถูกนิยามว่า “ อิคิเรียว วิญญาณคนเป็น “
________________________________________
เป็นที่ทราบกันดีว่าประเทศญี่ปุ่น
ให้น้ำหนักความเชื่อในเรื่องของภูติ ผี
ดวงวิญญาณอย่างมาก
อิคิเรียว ก็เป็นอีกหนึ่งตำนานความลี้ลับของญี่ปุ่น
ติดอันดับผีที่มีความน่ากลัว เป็นผีที่เจ้าตัวยังไม่ตาย
แต่วิญญาณได้ออกมาชำระแค้นศัตรูด้วยตนเอง
ตามเทพปกรณัมญี่ปุ่นเชื่อกันว่า
เมื่อบุคคลหนึ่งถูกอีกบุคคลหนึ่งกระทำ
ให้คับข้องหมองใจ เจ็บแค้นมากๆ
จนเกิดเป็นแรงอาฆาต
จิตวิญญาณที่มีความอาฆาตแค้นนั้น
จะแยกออกจากส่วนหนึ่งของร่างกาย
ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ เพื่อออกไปแก้แค้นศัตรู
โดยบางครั้ง เจ้าตัวเองอาจไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ
แต่เพราะกระแสดวงจิตที่มีความอาฆาต
อย่างแรงกล้า จึงส่งผลให้ดวงวิญญาณ
ไปปรากฎกายให้ผู้คนข้างนอกพบเจอ
ด้วยความที่ร่างอิคิเรียวนั้น
เกิดจากความอาฆาตแค้น
ทำให้จิตยึดติดกับการแก้แค้น
โดยมีเป้าหมายศัตรูที่ชัดเจน
จะไม่ทำร้ายผู้อื่นที่ไม่ใช่ศัตรูคู่แค้น
________________________________________
(ยกตัวอย่างจากตำนานญี่ปุ่น)
ยามค่ำคืน มีชายคนหนึ่งกำลังเดินทาง
ไปยังเมืองนาโกย่า เมื่อเขาเดินทาง
ไปจนถึงบริเวณทางแยกของเมืองโตเกียว
ได้พบกับหญิงสาวที่ยืนอยู่ตามลำพัง
เธอแต่งกายด้วยเครื่องอาภรณ์ที่ดูดีมีราคา
ดูท่าทางแล้ว น่าจะเป็นลูกผู้ดี มีตระกูล
ชายหนุ่มก็เกิดความสงสัย และเกรงว่า
หากปล่อยให้เธอยืนอยู่คนเดียวในช่วงเวลาเช่นนี้
อาจจะตกเป็นเหยื่อของโจรผู้ร้ายได้
เขาจึงคิดว่าจะเข้าไปถามเธอ
แต่คิดไปคิดมา ก็ตัดสินใจว่าจะไม่ยุ่งดีกว่า
เพราะไม่ใช่เรื่องธุระอะไร และคิดว่าเธอคงรอ
ให้ญาติมารับหรือไม่ก็อย่างอื่น
แต่ในขณะที่ชายหนุ่มกำลังเดินไปนั้น!!!
หญิงสาวได้เอ่ยว่า :
"ท่านค่ะ...ท่าน....ท่านกำลังจะเดินทางไปไหนค่ะ"
ชายหนุ่มหยุดต่อเสียงอันนุ่มนวลของเธอ
แล้วตอบกลับว่า :
"ข้าเหรอ...ข้ากำลังจะไปนาโกย่า"
( ญ ): "ท่านคงรีบร้อนแน่เลย...นาโกย่าอีกไกล
และตอนนี้ดึกมากแล้วด้วย...."
( ช ): "ใช่...แล้วแม่นางมาทำอะไรอยู่ตรงนี้
เดี๋ยวก็ถูกผู้ร้ายมาทำมิดีมิร้าย..."
( ญ ): "ข้ามาหาคนๆ หนึ่ง...แต่ข้าหาบ้านของเขา
ไม่พบไม่ทราบด้วยว่าบ้านเขาอยู่ตรงไหนของเมืองนี้"
( ช ): "แล้วคนที่แม่นางหานี่
เขาชื่ออะไร บางทีข้าอาจจะรู้จัก"
( ญ ): "เขาชื่อ...มินบุ โนะ ไทฮุ"
( ช ): "ที่แท้ก็ท่านมินบุ โนะ ไทฮุ นี่เอง รู้จัก รู้จัก
ท่านเป็นที่รู้จักของเมือง ทุกคนพากันอิจฉาท่าน
เพราะท่านได้แต่งงานกับเจ้าสาวที่อายุน้อย
และสวยมากๆด้วย"
( ญ ): "สวย...กว่าข้าไหม..."
หญิงสาวพูดด้วยเสียงที่เย็นและตาแข็ง
แววตามีแต่ความแค้น ชายหนุ่มอึ้ง...และเงียบไป
( ญ ): "ขอโทษนะค่ะท่าน...เมื่อท่านรู้จัก
ได้โปรดพาข้าไปยังบ้านของเขาได้ไหมค่ะ"
( ช ): "แต่ข้ารีบนะ ต้องรีบไปนาโกย่าด้วย"
( ญ ): "ได้โปรดเถิดค่ะ"
ชายหนุ่มจึงใจอ่อนและพาหญิงสาว
ไปยังบ้านของมินบุ โนะ ไทฮุ
( ช ) : "ที่นี้แหละ บ้านท่านมินบุ โนะ ไทฮุ"
หญิงสาวมองไปรอบๆบ้านและยิ้ม
ด้วยรอยยิ้มที่ดูแลมีเล่ห์นัย เหมือนดีใจ
ที่บรรลุเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่อย่างนั้น
และมีการหัวเราะแบบเบาๆดูแล้วแปลกๆ
( ญ ): "ขอบคุณท่านนะเจ้าค่ะ"
( ช ): "ไม่เป็นไรหรอกเมื่อข้าพาเจ้ามาส่ง
ถึงบ้านคนรู้จักแล้วข้าก็หายห่วงแล้ว"
( ญ ): "อย่างไรก็ขอขอบคุณท่านด้วย...
หากท่านผ่านไปเมืองชิกะ
ได้โปรดแวะไปเยี่ยมเยือนข้าด้วยนะคะ"
( ช ): "ดูก่อนล่ะกัน หากผ่านไป
จะไปแวะหา ... เดี๋ยวข้าไปก่อนนะ"
หญิงสาวโค้งทำความเคารพขอบคุณชายหนุ่มอีกครั้ง
ชายหนุ่มโค้งกลับ และเขาก็เดินจากไปได้ระยะหนึ่ง
เขาก็หวังจะหันมาดูว่ามีใครออกมาต้อนรับ
หญิงสาวคนนั้นแล้วหรือไม่
แต่พอหันกลับไป กลับไม่มีหญิงสาวคนนั้นอยู่แล้ว
จึงเกิดประหลาดใจ แต่ก็คิดว่าคงเข้าไปในบ้านแล้ว
แต่แล้วก็มีเสียงดังออกจากบ้านมินบุโนะ ไฮกุ
ชายหนุ่มตกใจ และคิดเป็นห่วงหญิงสาว
กลัวว่าจะเกิดเรื่องขึ้น เขาจึงรีบเดินกลับไปที่บ้านนั้น
ภานในบ้าน..ผู้คนวิ่งไปมาอย่างอลวน
ชายหนุ่มปรี่เข้าไปและถามคนรับใช้คนหนึ่งว่า
( ช ): "เกิดอะไรขึ้น..."
(คนใช้): "นายหญิง....นายหญิง....เธอเสีย....แล้ว"
( ช ): "อะไรนะ...ภรรยาสาวของท่านมินบุ โนะไฮกุ
เสียชีวิตแล้วหรือ"
( คนใช้ ): "ใช่...." คนรับใช้ตอบทั้งน้ำตา
( ช ): "แล้วเขาตายอย่างไงล่ะ"
( คนใช้ ): "อยู่ๆนายหญิงก็พูดว่าเห็นหญิงสาว
ในชุดสีส้ม แววตาน่ากลัวยืนอยู่ แล้วนายหญิง
ก็เอามือของเธอมาบีบคอตัวเองเลยขาดอากาศตาย”
( คนใช้กล่าวต่ออีกว่า ) :
“ท่านมินบุ โนะ ไฮกุ เสียใจมากที่ภรรยา
ทั้งสาวทั้งสวยของท่านจากไป
ท่านทิ้งภรรยาเก่าที่เมืองชิกะ
และมาแต่งกับนายหญิงผู้อ่อนต่อโลก
และยังมาตายอายุน้อยอีก
ข้านะสงสาร...สงสารนายหญิงของข้าจริงๆ"
ชายหนุ่มเริ่มมีความสงสัยขึ้นภายในใจ
( ช ): "ท่านมินบุ โนะ ไฮกุ มีภรรยาอยู่ก่อนแล้ว
ที่เมืองชิกะ เหรอ?? ไม่เห็นมีใครทราบเลย"
(คนใช้): "ก็ท่านเป็นขุนนางมาจากที่อื่น
ท่านก็ย้ายไปประจำตามที่ต่างๆ
ต่อมาท่านก็เลิกกับภรรยาเก่า
และมาแต่งกับนายหญิงของข้า...
ข้าว่าการตายของนายหญิงต้องเป็นฝีมืออิคิเรียว
ของภรรยาเก่าท่านมินบุ โนะ ไฮกุแน่ๆ..."
ชายหนุ่มเริ่มกลัว "อะไรกันนี้...."
หลายอาทิตย์ต่อมาชายหนุ่มเดินทางผ่านเมืองชิกะ
เขานึกถึงคำพูดของหญิงสาวคนนั้น
เขาประทับใจในกิริยามารยาทและรูปโฉมของนาง
เขาจึงมาหานางตามที่นางบอกไว้
ชายหนุ่มมาหยุดที่บ้านหลังใหญ่โตอย่างคฤหาสน์
สาวใช้คนหนึ่งออกมาต้อนรับ
(คนใช้สาว): "ตอนนี้นายหญิงรอท่านอยู่ที่เจ้าค่ะ"
ชายหนุ่มตกตะลึง
"อะไรกัน นายหญิงของเจ้าทราบได้เช่นไรกัน"
(คนใช้สาว): "ตามข้ามาเถิด นายหญิงเตรียมของ
ไว้ต้อนรับท่านตั้งแต่เมื่อวานแล้วเจ้าค่ะ"
ชายหนุ่มหยุดข้อสงสัยและเดินตามสาวใช้
เดินผ่านสวนที่ประดับด้วยหินและดอกไม้นานาชนิด
สาวใช้พาเขามายังเรือนแห่งหนึ่ง และบานประตู
ก็เลื่อนออก ภายในห้องประดับไปด้วยแจกัน
ที่มีด้วยช่อดอกไม้สวยงามและเครื่องแก้วต่างๆ
มีควันหอมของกำยานอ่อนๆ
(คนใช้สาว): "นายหญิงเจ้าค่ะ
แขกของท่านมาถึงแล้วเจ้าค่ะ"
ม่านไม้ไผ่สีขาวถูกชักออก ภาพเบื้องหน้า
หญิงสาวคนนั้นแต่งกายด้วยกิโมโน
ลายดอกเบญจมาศสีแดง และผมประดับด้วย
เครื่องประดับปิ่นงดงาม ใบหน้างดงาม
ไม่ผิดไปจากวันที่ชายหนุ่มพบ
( ญ ): "เชิญท่านนั่งก่อนค่ะ"
ชายหนุ่มนั่งลงบนเบาะที่เบื้องหน้า
มีโต๊ะที่วางขนม อาหารและเครื่องดื่มมากมาย
( ญ ): "ท่านเชิญกินขนมและอาหารเหล่านี้
ข้าตั้งใจทำเพื่อรับรองท่านเลย"
( ช ): "เช่นนั้นข้าไม่เกรงใจนะ น่ากินทั้งนั้นเลย"
ชายหนุ่มนั่งกินขนมอย่างอร่อย
และพูดคุยกับหญิงสาวถึงสารทุกข์สุขกัน
( ญ ): "หากคืนนั้นท่านไม่ช่วยข้า
ข้าน้อยคงไม่สุขใจเช่นนี้"
ชายหนุ่มอึ้งนิ่ง เขาคิดว่า คำว่าคืนนั้น คืออะไร
และภาพนั้นปรากฏต่อเขา
ภาพของความอลวนในบ้านท่านมินบุ โนะ ไฮกุ
( ช ): "ไม่เป็นไรหรอก"
( ญ ): "ข้าสะใจมาก นางแพศยาตายได้ก็ดี..."
ชายหนุ่มเริ่มจะกลัว
แต่หญิงสาวกลับรู้สึกตรงข้ามกับเขา
เธอใบหน้ามีแต่รอยยิ้มที่มีความสุข
และแววตาที่สมหวัง
•
เขาช่วยให้ภารกิจของนางในการแก้แค้นสำเร็จ
นางก็คือภรรยาเก่าของท่านมินบุ โนะ ไฮกุ นั่นเอง
นางถอดจิตมาแก้แค้น ฆ่าภรรยาสาวของสามีตนเอง
ชายหนุ่มได้รับสิ่งตอบแทนจากนางเป็นสิ่งของที่มีค่า
ทั้งแก้วแหวนเงินทองและผ้าไหมชั้นดี
แต่ชายหนุ่มยังรู้สึกผิดอยู่ดี ว่าตนเองเป็นตัวต้นเหตุ
ที่ทำให้ภรรยาสาวของ ท่านมินบุโนะ ไฮกุ เสียชีวิต
และหากเขาไม่สนใจหญิงสาวในคืนนั้น
เรื่องคงไม่เกิด...
________________________________________
กล่าวได้ว่า “อิคิเรียว “
คือ วิญญาณที่ออกจากร่างมนุษย์
ทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ เพื่อไปแก้แค้นศัตรูคู่อาฆาต
โดยมีเป้าหมายที่ชัดเจน ไม่ทำร้ายผู้อื่น
ที่ไม่ใช่ศัตรูของตน และส่วนใหญ่จะพบว่า
เบื้องหลังของอิคิเรียว มักจะเกิดจาก
ความเจ็บช้ำน้ำใจในเรื่องของความรัก
จนเป็นความแค้นสะสม กระทั่งดวงจิตอาฆาต
________________________________________
•
ทีมงาน The ghost radio 👻
ขอขอบคุณสำหรับการติดตาม
#ย้อนรอยเรื่องเล่า #Theghostradio
•
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
ข้อมูลที่นำเสนอ มีเนื้อหาเกี่ยวกับความเชื่อ
ซึ่งแต่ละบุคคล อาจมีความเชื่อที่แตกต่างกัน
ขอให้ท่านผู้อ่าน ใช้ดุลยพินิจและวิจารณญาณ
ในการรับสารข้อมูล และหากมีมุมมองที่แตกต่าง
โปรดแสดงความคิดเห็น เพื่อให้ความรู้อีกแง่มุม
โดยไม่กล่าวล่วง ความเชื่อความศรัทธาของผู้ใด
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
•
ขอบคุณแหล่งอ้างอิงและภาพประกอบจาก
http://worldwildknow.blogspot.com/2017/08/blog-post_60.html?m=1
http://jsat.or.th/wp-content/uploads/2019/06/05attaya-suwanrada.pdf
https://2th.me/a/library/f7/48395
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過73萬的網紅WabisabiTV,也在其Youtube影片中提到,รายการ สุโก้ยเจแปน ( Sugoi Japan ) MC / HIRO SANO / 佐野 ひろ รายการที่จะพาคุณไปตะลุยญี่ปุ่นในแบบที่คุณต้องร้องว่าสุโก้ย...!!! โดยคนญี่ปุ่นอารมณ์ดีอย่าง "...
ไฮกุ 在 สาระศาสตร์ Facebook 的最讚貼文
Less is more หลายคนน่าจะเคยได้ยินคำนี้กันบ้างใช่มั้ยครับ และการทำน้อยแต่ได้มากก็เป็นสิ่งที่หลายคนใฝ่ฝัน ( ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ) เพราะเราคงไม่อยาก ทำมากได้น้อย ทำน้อยได้น้อย หรือ ทำมากได้มาก กันแน่ๆ
แต่ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จัก Less is more กันก่อน เพราะผมเชื่อว่าหลายคนคงเข้าใจผิดคิดว่า การทำน้อยแต่ได้มาก คือการแสวงหาทางลัด หาทางที่สะดวกสบายที่สุด ซึ่งความหมายจริงๆแล้ว แตกต่างจากที่เราเข้าใจไปคนละโยชน์เลยทีเดียวครับ
Less is more มีต้นกำเนิดจากวงการศิลปะ เป็นการออกแบบแนวนึง เช่น minimalist design ไม่ใช่เป็นเป็นการ "ทำน้อยแต่ได้มาก" แต่เป็น "น้อยคือมาก" แปลอีกอย่างคือ #เรียบง่ายที่สุดแต่ได้ประโยชน์สูงสุด ไม่ใช่ทำน้อยๆแล้วได้มากๆแบบที่เราเข้าใจครับ งานที่ Less is more จะผ่านการคิดมาเยอะมาก แล้วตัดทอนสิ่งที่ไม่จำเป็นออก ให้เหลือแค่ใจความสำคัญจริงๆเท่านั้น
รอบตัวเรามีตัวอย่างของ Less is more มากมายครับ เช่น ผลิตภัณฑ์ของ Apple ที่ออกแบบด้วยความตั้งใจของตัว สตีฟ จ็อบส์ เช่น ไอโฟน ที่ถูกออกแบบมาให้ดูเรียบง่ายที่สุด โดยตัดปุ่มต่างๆทิ้ง ให้เหลือแค่ทัชสกรีนโล่งกับปุ่มแค่ไม่กี่ปุ่ม และผลจากการกำเนิดไอโฟนในครั้งนั้นก็ทำให้มือถือรุ่นปุ่มหยุบหยับแบบ Nokia BB ล้มหายตายจากกันไปหมด
อีกตัวอย่างของ Less is more คือ กลอนไฮกุ ของญี่ปุ่น
บทกลอนไฮกุ มีเพียงตัวอักษร 3 วรรค ยาว 5-7-5 รวมเป็นตัวอักษรเพียง 17 ตัว ไฮกุ มีพื้นฐานคือ เรียบง่าย และ ดั้งเดิม ไม่ยึดติดกับแบบแผน ไม่มีข้อจำกัด ไหลตามธรรมชาติ สั้นกระชับที่สุด ตรงที่สุด และเป็นไปอย่างฉับพลัน เรียบง่ายและตรงความรู้สึก ออกมาจากใจของกวี
ตัวของอย่างกลอนไฮกุ
เหตุใดน้อยแต่มาก
ได้ศึกษายากยิ่งซับซ้อน
มุ่งหวังได้เข้าใจ
-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\
Less is more นั้นเป็นแนวทางบอกกว้างๆ ไม่เจาะจงเฉพาะงานด้านใดด้านหนึ่ง อย่างในวงการ Start-up มีกระบวนการที่เรียกว่า Lean ก็เป็นตัวอย่างหนึ่งของ less is more หรือ กฏ 80/20 ของ พาเรลโต ก็คือ Less is more อีกรูปแบบหนึ่งเช่นกัน
Less is more เป็นทั้งแนวคิด ปรัชญา ที่ให้คุณค่าของความเรียบง่าย ลดความซับซ้อน และมีความสมบูรณ์ในตัวเอง ซึ่งจะไม่ตรงกับเรื่องของการทำน้อยแต่ได้มากแบบที่เราเข้าใจ
เพราะฉะนั้น Less is more ไม่ใช่แนวทางสำหรับคนขี้เกียจที่อยากหาทางลัดให้ชีวิตแน่นอน แต่มันคือการมั่นสังเกตุและทดลองในสิ่งที่เราทำทุกวัน ตัดสิ่งไม่จำเป็นทิ้ง และเพิ่มการลงมือทำในสิ่งที่เกิดผลให้เกิดผลมากยิ่งขึ้นนั่นเองครับ
ไฮกุ 在 สาระศาสตร์ Facebook 的最讚貼文
Less is more หลายคนน่าจะเคยได้ยินคำนี้กันบ้างใช่มั้ยครับ และการทำน้อยแต่ได้มากก็เป็นสิ่งที่หลายคนใฝ่ฝัน ( ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ) เพราะเราคงไม่อยาก ทำมากได้น้อย ทำน้อยได้น้อย หรือ ทำมากได้มาก กันแน่ๆ
แต่ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จัก Less is more กันก่อน เพราะผมเชื่อว่าหลายคนคงเข้าใจผิดคิดว่า การทำน้อยแต่ได้มาก คือการแสวงหาทางลัด หาทางที่สะดวกสบายที่สุด ซึ่งความหมายจริงๆแล้ว แตกต่างจากที่เราเข้าใจไปคนละโยชน์เลยทีเดียวครับ
Less is more มีต้นกำเนิดจากวงการศิลปะ เป็นการออกแบบแนวนึง เช่น minimalist design ไม่ใช่เป็นเป็นการ "ทำน้อยแต่ได้มาก" แต่เป็น "น้อยคือมาก" แปลอีกอย่างคือ #เรียบง่ายที่สุดแต่ได้ประโยชน์สูงสุด ไม่ใช่ทำน้อยๆแล้วได้มากๆแบบที่เราเข้าใจครับ งานที่ Less is more จะผ่านการคิดมาเยอะมาก แล้วตัดทอนสิ่งที่ไม่จำเป็นออก ให้เหลือแค่ใจความสำคัญจริงๆเท่านั้น
รอบตัวเรามีตัวอย่างของ Less is more มากมายครับ เช่น ผลิตภัณฑ์ของ Apple ที่ออกแบบด้วยความตั้งใจของตัว สตีฟ จ็อบส์ เช่น ไอโฟน ที่ถูกออกแบบมาให้ดูเรียบง่ายที่สุด โดยตัดปุ่มต่างๆทิ้ง ให้เหลือแค่ทัชสกรีนโล่งกับปุ่มแค่ไม่กี่ปุ่ม และผลจากการกำเนิดไอโฟนในครั้งนั้นก็ทำให้มือถือรุ่นปุ่มหยุบหยับแบบ Nokia BB ล้มหายตายจากกันไปหมด
อีกตัวอย่างของ Less is more คือ กลอนไฮกุ ของญี่ปุ่น
บทกลอนไฮกุ มีเพียงตัวอักษร 3 วรรค ยาว 5-7-5 รวมเป็นตัวอักษรเพียง 17 ตัว ไฮกุ มีพื้นฐานคือ เรียบง่าย และ ดั้งเดิม ไม่ยึดติดกับแบบแผน ไม่มีข้อจำกัด ไหลตามธรรมชาติ สั้นกระชับที่สุด ตรงที่สุด และเป็นไปอย่างฉับพลัน เรียบง่ายและตรงความรู้สึก ออกมาจากใจของกวี
ตัวของอย่างกลอนไฮกุ
เหตุใดน้อยแต่มาก
ได้ศึกษายากยิ่งซับซ้อน
มุ่งหวังได้เข้าใจ
------------------------------------------------------------------------
Less is more นั้นเป็นแนวทางบอกกว้างๆ ไม่เจาะจงเฉพาะงานด้านใดด้านหนึ่ง อย่างในวงการ Start-up มีกระบวนการที่เรียกว่า Lean ก็เป็นตัวอย่างหนึ่งของ less is more หรือ กฏ 80/20 ของ พาเรลโต ก็คือ Less is more อีกรูปแบบหนึ่งเช่นกัน
Less is more เป็นทั้งแนวคิด ปรัชญา ที่ให้คุณค่าของความเรียบง่าย ลดความซับซ้อน และมีความสมบูรณ์ในตัวเอง ซึ่งจะไม่ตรงกับเรื่องของการทำน้อยแต่ได้มากแบบที่เราเข้าใจ
เพราะฉะนั้น Less is more ไม่ใช่แนวทางสำหรับคนขี้เกียจที่อยากหาทางลัดให้ชีวิตแน่นอน แต่มันคือการมั่นสังเกตุและทดลองในสิ่งที่เราทำทุกวัน ตัดสิ่งไม่จำเป็นทิ้ง และเพิ่มการลงมือทำในสิ่งที่เกิดผลให้เกิดผลมากยิ่งขึ้นนั่นเองครับ
ไฮกุ 在 WabisabiTV Youtube 的最佳貼文
รายการ สุโก้ยเจแปน ( Sugoi Japan ) MC / HIRO SANO / 佐野 ひろ
รายการที่จะพาคุณไปตะลุยญี่ปุ่นในแบบที่คุณต้องร้องว่าสุโก้ย...!!! โดยคนญี่ปุ่นอารมณ์ดีอย่าง " ฮิโระซัง "
ที่จะพาเราไปเรียนรู้และสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวแดนปลาดิบแบบใหม่เก๋ๆ ที่ไม่เหมือนใคร
รับรองว่าสนุกฝุดๆ ครบรสทั้ง...กิน...นอน...เล่น แน่นอน!!
Taiko-Lab タイコラボ กลองไทโกะ
Sendai Castle (Aoba Castle) 青葉城 ปราสาทเซนได
Date Masamune Monument 伊達 政宗 อนุสาวรีย์ท่านดะเตะ มะซะมุเนะ
OHSYO FRUITS FARM ฟาร์มผลไม้
Cherry Picking เก็บเชอร์รีบุฟเฟต์
Yamadera Temple (Houjusan Risshaku-ji) 山寺 วัดยะมะเดะระ
Matsuo Basho 松尾 芭蕉 มะสึโอะ บะโช
Godaido Hall หอโกะไดโดะ
Ginzanso 山形県尾花沢市銀山温泉 โรงแรมกินซังโซ
Shirogane waterfall น้ำตกชิโระกาเนะ
Sekotoi Bridge せことい橋 สะพานเซโคโทะอิ
ออกอากาศทุกวันเสาร์ | เวลา 14.30 น.
ทางช่อง 9 MCOT HD และ Modernine TV (หมายเลข 30)
タイ全国放送 日本紹介旅番組『すごいじゃぱん』
毎週土曜日14.30 放送中!
ติดตามความสุโก้ยได้ที่
http://www.sugoijp.com/