ใครเป็นภูมิแพ้ ลองปรึกษาคุณหมอดูนะคะ
การทำ skin test ทำให้รู้ว่า เราแพ้อะไรบ้าง
จะได้รักษาได้ตรงจุด
💉รีวิวการตรวจภูมิแพ้ที่รพ.รัฐบาลฝั่งธนแห่งนึง💉
เนื่องจากมีเพื่อนๆ พี่ๆ เข้ามาสอบถามดิวกันเยอะมากเกี่ยวกับการตรวจภูมิแพ้ว่าไปตรวจที่ไหน เป็นยังไงบ้าง ราคาเท่าไหร่ วันนี้ก็เลยจะมาบอกให้ครบกันเลยทั้งขั้นตอน อาการ ครส. รวมทั้งค่าใช้จ่ายทั้งหมดจ้า
แต่อันนี้คือต้องบอกก่อนว่าไม่ได้ไปตรวจเองแบบเดินดุ่มๆ เข้าไปขอตรวจนะ คือรักษากับคุณหมออยู่แล้วเมื่อ4ปีก่อน อาการเริ่มแรกก็คือเป็นหวัดแบบมีน้ำมูกไหลตลอดเวลาตั้งแต่ตื่นนอนยันเข้านอนเลย จะจามตลอดเวลาจนบางทีก็ทำให้รบกวนกิจวัตรประจำวันมาก เวลาเรียน เวลาอนส. น้ำมูกไหลหยดย้อย เป็นหนักแบบนี้อยู่ช่วงนึงจนรู้สึกปวดหัว ปวดจมูกต้องพกทิชชู่ติดตัวตลอดจนรำคาญตัวเองเลยอะ ทนไม่ไหวกลัวจะเป็นไซนัสเลยให้แม่พาไปหาหมอที่รพ.นี้แหละ ตอนนั้นจุดเริ่มต้นเลยก็คือหมอให้พ่นจมูกล้างน้ำเกลือแล้วพ่นยา ก็ทำตามหมอสั่งทุกอย่างจนยาพ่นหมด หลังจากนั้นก็เลยไปหาซื้อยาพ่นเองไม่ได้ไปหาหมอละ จนเวลาล่วงเลยผ่านมา4ปี ตอนนั้นม.6อะ จนตอนนี้จะขึ้นปี4ละอาการมันก็กลับมาจ้า คราวนี้ยาพ่นเอาไม่อยู่แล้วอะบอกหมอทำไงดีกินยาแก้แพ้ แก้หวัดทั่วไปก็ไม่หาย หมอเลยจับนัดทดสอบภูมิแพ้ทั้งสองวิธีดังนี้ แล้วก็ได้ผลสรุปนู่นนี่นั้น วิธีแก้ไขบลาๆๆๆๆๆๆๆๆ
การทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนังมีอยู่ 2 วิธี
ก็คือ 1.การสะกิด (skin prick test) และ 2.วิธีฉีดเข้าไปในผิวหนัง (Intradermal test) เป็นวิธีที่ช่วยในการวินิจฉัยโรคภูมิแพ้ที่ไว ง่าย ราคาไม่แพง แถมรู้ผลทันทีเลยและคือนี่โดนทั้งสองวิธีเลยจะบอกว่าแบบที่2เจ็บกว่าแบบแรกอีกอะ555555555555 แต่เทียบกับผ่าฟันคุดแล้วขี้มดมาก โดยวิธีแรกอะเค้าแค่หยดสารก่อภูมิแพ้ลงบนแขนเรา 18จุดแล้วใช้เข็มสะกิดซ้ำเบาๆ ให้สารเหล่านั้นซึมเข้าเนื้ออะ พอเสร็จก็รอผลถ้าจุดไหนบวมก็คือแพ้สารนั้น ตอนตรวจแบบแรกก็แพ้แล้วนะคือแพ้ไรฝุ่นแต่หมอบอกมันยังไม่ชัดเลยนัดตรวจแบบ2อีก นี่ก็มาตามนัดมาตรวจแบบ2คือการฉีดเข้าใต้ผิวหนังครั้งนี้ 19เข็มจ้า หมอถามเป็นอะไรไหมมีอาการอะไรไหมหน้าซีดตัวซีดเลย เลยบอกหมอไม่ได้เกี่ยวกับภูมิแพ้แต่คือกลัวเข็มอะ ระหว่างที่หมอจิ้มๆๆไปก็คอยถามตลอดว่าครึ่งทางรึยัง คือมันแบ่งเป็น2ฝั่งตามรูปอะ ฝั่งนึงก็คือครึ่งนึง หมอก็คอยบอกตลอดว่าผ่านมาครึ่งนึงละนะ เหลืออีก4เข็มนะ เข็มสุดท้ายนะงี้5555555555555 รอบสองนี่ก็เพิ่มสารที่ฉีดไปที่ไม่มีในรอบแรก พอรอบนี้เลยรู้ว่าแพ้เพิ่มมาอีกหลายตัวเลยคือ ฝุ่นบ้าน นุ่น ยุง แล้วก็วัชพืชผักโขม นี่เลยถามหมอว่าใช่ผักโขมที่กินเปล่า กลัวอดกินผักโขมอบชีสอะ หมอบอกไม่ใช่ๆ มันเป็นวัชพืชที่ขึ้นในที่ชื้นเออสบายใจหน่อย
สรุปเลยก็คือไปตรวจเถอะนะแบบใครที่เป็นหวัดบ่อยๆ เอะอะจามอะไม่ต้องรอให้เป็นหนักหรือคิดว่าไม่เป็นไรกินยาเดี๋ยวก็หาย เพราะภูมิแพ้เนี้ยแหละคือจุดเริ่มต้นของโรคไซนัส เป็นๆ หายๆ เราไม่รู้หรอกว่าเราแพ้อะไร กันไว้ดีกว่าแก้จ้า เออลืมบอกมีเอกซเรย์ดูไซนัสแล้วก็เจาะเลือดตรวจด้วย
ค่าใช้จ่ายวิธีที่1 390฿ วิธีที่2 590฿ ไม่รวมค่าเอกซเรย์ดูไซนัส 1,000฿ เจาะเลือดอีก 100฿จ้า แต่ละรพ.จะราคาไม่เท่ากันนะ ใครสนใจลองไปศึกษาดูในเว็ปนี้ก็ได้จ้า👉🏻https://siriallergyguard.blogspot.com/2017/…/skin-test.html…
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過2,910的網紅コバにゃんチャンネル,也在其Youtube影片中提到,...
「intradermal skin test」的推薦目錄:
- 關於intradermal skin test 在 Sp Saypan Facebook 的最讚貼文
- 關於intradermal skin test 在 Lily的澳洲獸醫日誌 Facebook 的最讚貼文
- 關於intradermal skin test 在 コバにゃんチャンネル Youtube 的最佳貼文
- 關於intradermal skin test 在 大象中醫 Youtube 的最佳貼文
- 關於intradermal skin test 在 大象中醫 Youtube 的最讚貼文
- 關於intradermal skin test 在 Intradermal Skin Testing | Diagnosing Skin Allergies - YouTube 的評價
- 關於intradermal skin test 在 IDST, short for Intradermal Skin Testing - Facebook 的評價
intradermal skin test 在 Lily的澳洲獸醫日誌 Facebook 的最讚貼文
【Week14 Day6 - EMS Dermatology】
這禮拜原該是我們四年級學生寶貴的假期,但認真進取的我😆依舊預約了一間專科醫院做實習(其實去之前有點後悔沒給自己放假),這醫院有很多部門,我則選擇了皮膚科。之所以會選擇皮膚科一方面是自己家裡的狗是過敏兒,另一方面因為皮膚和耳朵問題是一般GP最最常見也最最基本的問題,所以勢必要有基本的認知💪。
老實說這週非常資訊轟炸,即使去之前就已經把上課的講義全都讀過一遍,還是有很大的knowlegde gap,每跟一個診就是一直在增加自己的知識庫。Victoria state(墨爾本所在的州別)唯幾的皮膚科醫師都匯集在這邊看診,因此這個部門非常繁忙病患非常多,一個醫師一天看診量大約有14個case,每天診都是滿的,要預約都要排到好幾個星期後。
這五天跟診下來真的學到了很多臨床上的寶貴知識,最基本的就是如何取sample,如何判讀cytology、如何做正確的診斷(eg 顯微鏡下單單看到細菌或yeast(酵母菌?)並不代表皮膚有感染,因為正常的皮膚和耳朵本來就或多或少有箘叢,稱之為commensal,所以要搭配其他的pictures一起看,像是有無白血球、細菌跟白血球之間的關係等等),還有最重要的是如何正確並有效的治療。很多病患皮膚/耳朵感染一直復發,一個原因是飼主沒有遵從醫囑照時用藥,另外就是錯誤的用藥方式/用藥路徑造成failure of drug penetration,例如表層感染若用口服抗生素效果很有限,深層感染只用局部用藥也無法有效治療,再來就是沒有解決造成感染的根本問題,像是異位性皮膚炎/過敏若沒控制住,皮膚感染只會一而再再而三地反覆發生,最後就是感染了多重抗藥性的細菌,所以無效的藥用在久也沒法把感染治好。
這週看到的病患大概至少70%-80%都是過敏/異位性皮膚炎(包含過敏造成的二次性感染),剩下的小部分有腫瘤(epitheliotrophic lymphoma, mast cell tutor)、自體免疫疾病(pemphigus天皰瘡、lupoid onychodystrophy)還有耳道的疾病。很羨慕澳洲的過敏狗,因為這邊的皮膚過敏測試(IDST-intradermal skin test)和減敏的免疫療法(ASIT-allergen specific immunotherapy,也就是低劑量把過敏原打進皮下慢慢讓免疫系統習慣而非過度反應)都非常純熟,很多過敏兒經過適當的治療都能把皮膚狀況控制得很好。(台灣現在有醫院在做免疫療法嗎?)。在這邊過敏的治療方針是一旦一年內需要超過3-4個月的藥物治療(類固醇/apoquel/cyclosporine),就強烈建議做免疫療法然後把上面藥物劑量盡量壓到最低。一來降低長期服用這些藥物造成的副作用,二來長期的免疫療法相較之下是更省錢的方式。Apoquel(止癢藥)因為沒有足夠的研究顯示長期使用的安全性,所以澳洲這邊的皮膚科醫師會盡量避免連續使用超過3-4個月,另外也不使用在一歲以下的犬隻身上。
這週其中一天是procedure day,我看了四個ear flush(利用內視鏡進去耳道做檢查並沖洗,一個耳血腫的手術和兩個皮膚biopsy。另外這星期也看到了很多MRSP的case(MRSP相當於狗版的MRSA,也就是擁有多重抗藥性的超級細菌),因為來看皮膚問題的病患大多皮膚抵禦能力都很差,為了避免交叉感染這難以治療的菌株,所以診所另闢一間專為MRSP病患看診的診間,只要快到看診時間,醫院就會拉上封鎖線,為MRSP另設他們專屬通道,然後醫生們就要全副武裝穿上隔離衣、手套和鞋套才能進去看診,等病患離開醫院再進行大消毒。目前MRSP最有效的治療方式就是每日topical antiseptic (chlorhexidine spray),因為目前此細菌還沒發現對chlorhex的抗藥性。
最後一定要提一下澳洲這邊獸醫院幾件我極度讚揚的作法(每次都想講但每次都沒位置擠),不管是在學校的醫院、專科醫院還是一般的GP,澳洲這邊每個病患拿到的任何藥物都會有另外的標籤指示藥品名/藥品成分和用藥方式(見下圖)。另外每個病患在離開醫院時也都會拿到所謂的discharge letters/handouts,舉例來說像是被診斷出mast cell tumor(肥大細胞瘤)的病患,出院時就會給一份有關mast cell tumor的文件,裡面會以淺顯易懂的詞彙詳細解釋腫瘤的成因、診斷方法、各種治療方式和預後(效果/存活天數);另外像是這週在皮膚科就有準備好多不同藥物和疾病的handouts,裡面都有詳細解釋該藥物/治療方式的用途、使用方法、副作用,然後疾病的成因、診斷、治療及效果;也就是等於把醫生在診間解釋過的所有內容又再以文字方式讓飼主可以帶回家好好閱讀一次,個人覺得這是一個非常棒的模式👍,飼主不用怕一次性的資訊轟炸,可以清楚的理解我們醫生在做什麼、為什麼要做這些事,然後轉診或換醫院的時候,後一間醫院也可以清楚知道這個病患過去的用藥紀錄。(想當然爾這些寶貴知識我也都copy了一份帶回家閱讀,不過何時能讀完天曉得😂)
PS 這次去的專科醫院外觀+澳洲法規下一定要有的用藥標籤
intradermal skin test 在 コバにゃんチャンネル Youtube 的最佳貼文
intradermal skin test 在 大象中醫 Youtube 的最佳貼文
intradermal skin test 在 大象中醫 Youtube 的最讚貼文
intradermal skin test 在 IDST, short for Intradermal Skin Testing - Facebook 的推薦與評價
IDST, short for Intradermal Skin Testing - is a method of determining your pet's environmental allergy by injecting a small amount of ... ... <看更多>
intradermal skin test 在 Intradermal Skin Testing | Diagnosing Skin Allergies - YouTube 的推薦與評價
In this week's Take A Guess Tuesday we talk all about Intradermal Skin Testing. If your dog, horse or cat has allergies, then this is one ... ... <看更多>