ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ถ้ามีคนเดินตัวเปล่ามาบอกคุณว่าจะทำ “เงินล้าน” ให้ได้ มันคงเป็นเรื่องที่ดูเพ้อฝันเอามากๆ เพราะการทำงานประจำทั่วไปกว่าจะมีเงินครบล้านแรกได้ คงต้องรอถึงวัยเกษียณ หรือ ถ้าจะให้เร็วกว่านั้นก็ต้องทำธุรกิจเท่านั้น
.
แต่การจะทำธุรกิจได้ในสมัยนั้น ต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่างมาก คนที่จะรวยเร็วได้มักจะเป็นคนที่มี มรดก มีที่ดิน เรียนจบสูง หรือ บางคนถึงขนาดต้องอาศัย นามสกุล ยศ ตำแหน่ง เส้นสาย กันเลย หรือ อย่างน้อยถ้าไม่มีในสิ่งที่กล่าวมาก็ต้องมี “เงินทุน” ตั้งต้นสักก้อน
.
จึงไม่แปลกหากจะมองว่ามันดูเป็นไปไม่ได้ที่คนธรรมดาจะมี “เงินล้าน” ได้ เพราะเงื่อนไขมันยากมากจริงๆ
.
แต่ในยุคนี้ข้อจำกัดเหล่านั้นมันถูกทำลายไปหมดแล้วครับ แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะมองว่ายุคนี้ “เงินหายาก” ก็ตาม นั่นก็เพราะคนส่วนใหญ่ยังใช้วิธีหาเงินแบบ 10 ปีที่แล้วอยู่ นั่นก็คือ มองหาที่ดิน มองหาเงินทุน มองหาวุฒิการศึกษาสูงๆ
.
แต่ถ้าคุณอยากเป็นคนส่วนน้อยที่หาเงินได้ง่ายๆ คุณต้องใช้วิธีหาเงินในแบบปัจจุบันนี้ เท่านั้น
.
เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนผมได้มีโอกาสกลับไปมหาวิทยาลัยที่เพิ่งเรียนจบมาได้เกือบๆ 2 ปี เพื่อไปส่งเอกสารให้กับทางคณะเนื่องจากผมถูกเสนอชื่อให้รับรางวัลศิษย์เก่ารุ่นใหม่ดีเด่นประจำปีนี้ จึงถือโอกาสเอาผลงาน “หนังสืองานประจำสอนทำธุรกิจ” ไปมอบเป็นของขวัญให้กับทางคณบดีฯ คณาจารย์ และ ทีมงานทุกคน ของคณะด้วย
.
หลังจากพูดคุยกับทางคณบดีฯ เสร็จ ผมก็ไปนั่งดื่มกาแฟต่อกับอาจารย์ที่สนิทกันตั้งแต่สมัยเรียน เหตุผลที่เราสนิทกันเพราะเวลามีรายการแข่งขันวางแผนธุรกิจผมมักจะไปปรึกษาอาจารย์ท่านนี้ หรือ เวลามีคอร์สเรียนเรื่องการตลาดออนไลน์ที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เรียนฟรี ผมก็จะขอให้อาจารย์ช่วยส่งหนังสือคำขอไปให้
.
เรานั่งคุยกันหลายเรื่องประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า อาจารย์ก็เอ้ยขึ้นมาว่า “เธอนี่เก่งมากๆ เลยนะ อายุแค่ 24 ปี ก็มีเงินล้านได้แล้ว ถ้านับจากวันที่เธอเรียนจบไป นี่ก็แค่ 2 ปีเองนะ เธอใช้เวลามาถึงตรงนี้เร็วมากๆ สมัยอาจารย์กว่าจะเก็บเงินล้านได้ อายุก็ปาเข้าไปเกือบ 50 แล้ว ที่สำคัญ คือ ส่วนน้อยมากๆ ที่จะทำได้ เพราะส่วนใหญ่ คือ ไม่มีแม้แต่เงินเก็บไว้ใช้หลังเกษียณด้วยซ้ำ”
.
ผมจึงตอบอาจารย์ไปว่า “ผมไม่ได้เก่งไปกว่าใครเลยครับ เพียงแต่ผมโชคดีที่เกิดมาในยุคออนไลน์ ที่ข้อจำกัดต่างๆ ที่เคยมีถูกทำลายไปหมดแล้ว ถ้ารู้จักใช้เครื่องมือให้เหมาะสมกับยุคสมัย จะรู้เลยว่าเงินสมัยนี้มันหาง่ายมากๆ เชื่อไหมว่าถ้าผมเกิดมาในยุคของอาจารย์ รับประกันเลยว่าผมไม่มีทางทำได้แบบนี้แน่นอน”
.
อาจารย์ก็เลยถามกลับมาด้วยความสงสัยว่า “แล้วทำไม เพื่อนรุ่นเดียวกันกับเธอ ถึงทำไม่ได้ล่ะ ถ้าเธอไม่ได้เก่งกว่าพวกเขา”
.
ผมยิ้มแล้วพูดกลับไปเบาๆ ว่า “ถ้าวัดกันที่ความเก่งจริงๆ ทุกคนเก่งเท่าๆ กันหมดแหละครับ เผลอๆ ผมเก่งน้อยกว่าด้วย เพราะอาจารย์ก็รู้ว่าผมเรียนจบมาด้วยเกรดเฉลี่ย 2.46 เอง เพียงแต่วันนี้ผม “รู้” บางอย่างที่คนอื่น “ไม่รู้” เท่านั้น ถ้าคนอื่นได้รู้เหมือนกับที่ผมรู้ พวกเขาก็ทำได้เหมือนกันครับ เพราะจริงๆ แล้ว สิ่งที่ผมทำอยู่ทุกวันนี้มันเป็นเรื่องที่เบสิกมากๆ เลยนะ ขอแค่ให้เวลาฝึกฝนกับมันหน่อย ใครๆ ก็ทำได้ครับ เพียงแต่คนส่วนใหญ่ไม่ได้สนใจมัน เหมือนกับที่ผมสนใจจนมาขอให้อาจารย์ส่งหนังสือไปขอเรียนเรื่องนี้ฟรีให้เท่านั้นเอง
.
แต่จะว่าไป ทุกวันนี้เพื่อนๆ ที่เห็นผลลัพธ์ของผม เพื่อนที่เคยบอกว่าผม “บ้า” เมื่อ 2 ปีที่แล้ว วันนี้เขากลับมาหาผมกันหมดเลยครับ กลับมาเพื่อขอให้ผมสอนเขาในสิ่งที่เขาเคยมองข้ามมันเมื่อ 2 ปีที่แล้ว แถมยังบอกอีกว่า ตอนนี้เข้าใจแล้ว ว่า “รางวัลของคนบ้า มันช่างหอมหวานขนาดไหน”
.
นี่แสดงให้เห็นแล้วว่า “ออนไลน์ทำให้ทุกคนต้องเริ่มจากศูนย์เท่ากันหมดแบบแฟร์ๆ เงินทุนก็ไม่จำเป็นต้องมี เพราะทุกคนสามารถเริ่มต้นทำธุรกิจได้เลย ไม่จำเป็นต้องไปซื้อที่ดินทำเลดีๆ เหมือนในอดีต
.
เพราะคำว่า “ทำเล” มันแปลว่า “ที่ๆ มีลูกค้า”
.
คำถาม คือ แล้วที่ไหนล่ะ คือ ที่ๆ มีลูกค้าในยุคนี้
.
ใช่ครับ ก็บน “ออนไลน์” ไง
.
นี่คือ ที่ดินทำเลทองที่คุณไม่ต้องเสียเงินเช่าใคร ไม่ต้องไปกู้เงินธนาคารมาซื้อเลย
.
และไม่ต้องกลัวว่าใครจะใช้เส้นสาย ใช้นามสกุล หรือ ยศถาบรรดาศักดิ์ เพราะบนออนไลน์ “ไม่ให้ค่า” กับสิ่งเหล่านี้ เส้นสายใหญ่แค่ไหน ก็ทำให้คนเชื่อถือไม่ได้ นามสกุลดังขนาดไหน ก็ไม่ช่วยให้ใครขายดี
.
คุณไม่จำเป็นต้องเรียนจบสูง เพราะไม่มีใครมานั่งตัดสินชีวิตคุณจากวุฒิการศึกษาใบเดียว เพียงแต่คุณจะต้องมี “ความรู้” เกี่ยวกับมันให้มากพอ เท่านั้นเอง
.
แล้วเราจะโต 10 เท่า ในปีนี้ไปด้วยกัน 🔥🔥🔥
.
.
ใครอยากลุยไปกับผม และ พี่น้องชาว Online Signature อีกเกือบ 100 ชีวิต ก็สามารถเข้ามาลุยด้วยกันได้คลาสได้เลยครับ เพราะพวกเราจะเริ่ม “จุ่มตัว” เพื่อดูดความรู้ เรื่องธุรกิจออนไลน์ที่ผมตกผลึกมาตลอด 2 ปีเต็ม กันในวันที่ 19 มิถุนายน นี้แล้ว
.
✅ ผมมั่นใจเลยว่า มันจะเปลี่ยนชีวิตคุณทันที เมื่อเรียนจบคอร์ส เพราะความรู้ทุกอย่างผ่านการทดลอง และ ลงมือทำจริงมาทั้งหมดแล้ว ทั้ง 9 บท เรียน คือ
.
1. เทคนิคปิดการขาย ให้ลูกค้าอยากซื้อ
2. การทำคอนเทนต์สะกดจิตลูกค้าให้คล้อยตาม
3. การเขียนโพสต์ขายแบบป้ายยา
4. เขียนโพสต์ขายยังไง ให้ใช้ทำยอดขายได้ยาว 5 ปี
5. การทำรูปด้วย Canvas จากมือถือเครื่องเดียว
6. การตลาด เพิ่มยอดขาย โดยไม่ต้องหาลูกค้าเพิ่ม
7. การวิเคราะห์ดาต้าเพื่อเพิ่มยอดขาย อย่าง แม่นยำ ประหยัด
8. การยิงโฆษณาขั้นสูง ให้ได้ผลมาก แต่ค่า Ads ถูก
9. กลยุทธ์สร้างความแตกต่างทางธุรกิจ โดยไม่ต้องแข่งราคา
✅ Bonus class : วิธีทดลองตลาด หาสินค้ามาขาย สร้างธุรกิจได้ โดยไม่ต้องใช้เงินทุน
✅ Bonus class : เคล็ดลับทำให้คุณขายดีตลอดทั้งปี ไม่มีตก
.
.
✅ สอบถามรายละเอียด และ รับราคาพิเศษ ได้ที่ Line : @samounglai
.
✅ รีบขึ้นรถมากับเรา เพราะหากรอช้าไปกว่านี้ ค่าตั๋วจะแพงขึ้นนะครับ
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過34萬的網紅Petssy Channel,也在其Youtube影片中提到,มาดูทีดิน ตรงที่แม่ป้าจะยกให้ที่อุบล ยินดีต้อนรับสู่ช่อง เพรชชี่ แชนแนล,petssy channel นี้คือป้าเพรชชี่ และ ในช่องของป้าเพรชชี่ ป้าเพรชชี่จะนำเส...
「มรดก คือ」的推薦目錄:
- 關於มรดก คือ 在 สมองไหล Facebook 的精選貼文
- 關於มรดก คือ 在 สมองไหล Facebook 的精選貼文
- 關於มรดก คือ 在 สมองไหล Facebook 的最讚貼文
- 關於มรดก คือ 在 Petssy Channel Youtube 的最佳貼文
- 關於มรดก คือ 在 มรดกคืออะไร และใครบ้างมีสิทธิรับมรดก #มรดก #คืออะไร - YouTube 的評價
- 關於มรดก คือ 在 ความหมายของมรดก มรดก คือ... - สำนักกฎหมายนิติศาสตร์หาดใหญ่ 的評價
- 關於มรดก คือ 在 ทำความเข้าใจ “มรดก” ควรตกถึงใคร ? : รู้เท่ารู้ทัน - YouTube 的評價
มรดก คือ 在 สมองไหล Facebook 的精選貼文
มรดก ที่มีค่ามากกว่า “ทรัพย์สิน” คือ “มรดกทางความคิด”
พ่อและแม่ของผมเป็นคนที่สร้างเนื้อสร้างตัวจากคนที่ไม่มีอะไรเลย จากพนักงานโรงแรมย่านรามคำแหง จนวันนี้มีธุรกิจและประสบความสำเร็จ
.
นั่นจึงเป็น “มรดกทางความคิด” ที่ท่านส่งต่อมาให้ผม โดยการให้ผมออกไปเรียนรู้ ล้มเหลว ลุกขึ้นสู้ และ สร้างเนื้อสร้างตัวด้วยตัวเองเช่นกัน
.
ไม่ใช่ว่าเกิดมาพ่อแม่มีธุรกิจ แล้วจะมาหวังพึ่งธุรกิจที่บ้าน โดยไม่ต้องทำอะไรเลย จนวันนี้ผมประสบความสำเร็จได้แล้วในระดับหนึ่ง แล้วก็จะเดินหน้าต่อไป...
.
ผมบอกกับพ่อแม่เสมอว่าไม่ต้องห่วงว่า พี่น้องทั้ง 4 คน ในครอบครัวของเราจะทะเลาะเพื่อแย่งมรดกกันในวันที่พ่อแม่จากไป
.
เพราะต่อให้พ่อแม่ไม่ทิ้งทรัพย์สินอะไรไว้ให้ผมเลย ผมก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร เพราะพ่อแม่ได้ทิ้ง “มรดกทางความคิด” ให้ผมและน้องๆ ได้สร้างสรรค์ทุกอย่างขึ้นมาด้วยตัวเองแล้ว
.
ต่อให้ไม่มี มรดก เป็น “ทรัพย์สิน” สักแดง ผมก็สามารถสร้างมันขึ้นมาใหม่ด้วย 1 สมอง 2 มือ ของตัวเองได้
.
ขอบคุณ คุณพ่อและคุณแม่ ที่ส่งต่อ มรดกที่ “มีค่า” นี้ไว้ให้ และ ขอบคุณคำสอนทุกอย่าง ที่ทำให้หนังสือเล่มนี้ มี Story ที่สมบูรณ์แบบ...
.
.
ปล. และเพื่อไม่ให้ “มรดกทางความคิด” ที่พ่อแม่ส่งต่อมาให้มีประโยชน์แค่ตัวผมและน้องชายอีก 3 คน
.
ผมจึงเขียนเรื่อง “มรดกทางความคิด” เอาไว้ในบทที่ 3 ของหนังสือ #งานประจำสอนทำธุรกิจ เพื่อหวังว่ามันจะสามารถช่วยให้เพื่อนๆ และ พี่น้อง ทุกคนสามารถนำมันไปใช้ประโยชน์ได้ด้วยครับ
มรดก คือ 在 สมองไหล Facebook 的最讚貼文
ผมเป็นเด็กต่างจังหวัดคนหนึ่งที่เกิดในครอบครัวที่มีฐานะค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ถึงกับร่ำรวยมาก โดยพ่อเปิดร้านขายวัสดุก่อสร้าง ส่วนแม่เปิดร้านมินิมาร์ท
.
แต่ด้วยความที่บ้านผมอยู่ในชนบท จึงทำให้ผมมีบ้านหลังใหญ่กว่าคนอื่นๆ ในตำบลเดียวกัน
.
ผมได้รับคำกล่าวขานจากเพื่อนๆ ในโรงเรียนที่อาศัยอยู่ตำบลเดียวกัน หรือ ใกล้เคียงว่า “ลูกเทวดา” เพราะเกิดมาบ้านรวย อยากจะได้อะไรพ่อแม่คงซื้อให้หมด
.
แต่ความจริงคือ “ไม่เลย”
.
ด้วยความที่พ่อแม่ผมเคยเป็นคนยากจนมาก่อน บวกกับผมเป็นพี่คนโต จึงพอจะทันเห็นระยะสร้างตัวของพ่อแม่
.
ตั้งแต่จำความได้ ตอนนั้นแม่ยังเปิดร้านขายของชำธรรมดาอยู่ ยังไม่มีมินิมาร์ทเหมือนอย่างวันนี้ ส่วนพ่อก็ขับรถจักรยานยนต์คนเก่าๆ ที่มีสายไฟพันเต็มไปหมดไปทำงานโดยไม่มีวันหยุด พอสร้างตัวได้หน่อยก็ซื้อรถเก๋งสีดำมือสอง ซึ่งรถคันนี้บอกเลยว่าไปที่ไหนก็เสียกลางทางตลอด
.
ถ้าวันไหนออกไปกินข้าวนอกบ้านในเมืองหน่อยละก็ ทำใจได้เลย เพราะต้องมีจอดเสียกลางทางไม่ต่ำกว่า 2 ครั้งแน่นอน
.
จนตอนนี้ร้านขายวัสดุก่อสร้างของพ่อนั้นใหญ่โตและยังขยายไปอีก 3 สาขา และยกระดับจากคนเคยขับรถเก๋งมือสอง เป็นคนที่มีรถเบ๊นซ์ขับ
.
แต่เชื่อไหมว่า ถึงแม้วันนี้พ่อแม่ของผมจะมีฐานะดีแค่ไหน แต่ก็ไม่เคยที่จะให้ลูกใช้เงินฟุ่มเฟือยโดยไม่รู้คุณค่าเลย
.
ย้อนกลับไปตอนที่ผมกำลังเข้าเรียนชั้นมัธยม ปีที่ 1 ซึ่งผมต้องย้ายเข้าไปเรียนในเมือง และแน่นอนว่าเมื่อเราต้องไปเรียนในที่ห่างไกล สิ่งที่จำเป็นต้องใช้คือ “โทรศัพท์มือถือ”
.
มือถือเครื่องแรกของผมคือ โทรศัพท์ยี่ห้อ โมโตโรล่า ราคาประมาณ 600 บาท เชื่อไหมว่า ถึงแม้ว่ามันจะจำเป็นแค่ไหน แต่พ่อแม่ก็ไม่ได้ซื้อให้ แต่เขาบอกให้ผมไปหาเงินมาซื้อเอง
.
ตอนนั้นผมต้องทำงานรับจ้างล้างรถให้พ่อแม่ ถูบ้าน และเอาเงินในกระปุกทั้งหมดออกมาเพื่อซื้อมัน ที่สำคัญเงินในมือถือก็ต้องใช้เงินที่เหลือจากค่าขนมมาเติมเอง
.
ต่อมาเมื่อเข้า ม.2 ตอนนั้นผมย้ายมาเรียนใกล้บ้านมากขึ้น เพราะมีปัญหาทางด้านภาษามาลายู ที่พูดไม่ได้ จึงทำให้เรียนไม่เข้าใจ
.
ตอนนั้นมือถือรุ่น samsung one tv ดังมาก เพราะมันสามารถดึงเสาอากาศออกมาดูทีวีได้ ยุคนั้นถือว่าว้าวมาก ราคาอยู่ที่ 2,300 บาท
.
ด้วยความที่ผมอยากได้มาก จึงต้องทำงานแลกมาเหมือนเดิม โดยตอนนั้นก็ยังรับจ้างล้างรถให้พ่อแม่อยู่ แต่ล้างรถทีได้เงิน 100 บาท ซึ่งถ้าจะได้ได้โทรศัพท์เครื่องนั้น ผมต้องล้างถึง 23 ครั้ง
.
และในจังหวะนั้นลูกพี่ลูกน้องที่โตกว่าผมประมาณ 3 ปี ได้มาชักชวนให้ไปรับจ้างทาสีเหล็กที่ค่ายทหารแห่งหนึ่งในตำบลใกล้เคียง โดยจะได้ค่าจ้างอยู่ที่ 800 บาท ทำงานประมาณ 3 วัน
.
ผมจึงตอบตกลงทันที และลูกพี่ลูกน้องก็มารับผมที่บ้านตอนเช้า เพื่อไปทาสี โดยเขาก็สอนผมทาสีไปด้วย
.
แต่ก็โชคร้าย ทาไปทามาวันที่ 2 ของการทำงาน ขณะที่ผมกำลังยกเหล็กขึ้นเพื่อไปวางบนแท่นทาสี
.
แต่มันดันหลุดมือตกใส่เท้า ทำให้นิ้วโป้งเท้าด้านขวาผมเลือดออกเยอะมาก แต่ตอนนั้นมีคนงานพม่าคนหนึ่งเห็นผมกำลังร้องด้วยความเจ็บปวด
.
เขาก็เดินไปเด็ดใบไม้อะไรสักอย่างมาจากต้น มาขยี้บีบน้ำออกมาใส่แผลผม ปรากฎว่าเลือดหยุดทันที
.
แต่มันก็ทำให้ผมต้องหยุดทำงานตั้งแต่วันนั้น เพราะแผลมันค่อนข้างใหญ่ ผมจึงได้รับค่าจ้างมา 600 บาท เพราะทำงานไม่ครบตามกำหนด
.
ผมกลับมาล้างรถเหมือนเดิม ประกอบกับไปที่ร้านของพ่อที่เป็นสาขาย่อย เพื่อไปเป็นคนชั่งตะปูขาย
.
ผมทำงานเก็บเงินอยู่ 3 สัปดาห์ กว่าจะซื้อโทรศัพท์เครื่องนี้มาได้
.
สิ่งที่แตกต่างระหว่าง พ่อแม่ซื้อให้กับเราทำงานซื้อมาด้วยน่ำพักน้ำแรงของตัวเอง คือ การมองเห็น “คุณค่า” ของสิ่งของนั้นๆ
.
เปรียบเทียบได้จากช่วง ม.ต้น ที่ผมไปซ้อมกีฬาเทควันโด เพื่อนทุกคนจะมีโทรศัพท์เหมือนกันหมด
.
แต่สิ่งที่แตกต่าง คือ ถ้าผมทำโทรศัพท์ตกเมื่อไหร่ ใจผมจะวูบมาก เพราะกลัวมันจะเสีย หน้าจอจะแตก
.
ต่างกับเพื่อนผมที่เวลาโทรศัพท์ตก จะหยิบขึ้นมาแล้วขว้างมันลงกับพื้นซ้ำ แล้วบอกกับผมว่า ให้มันพังเร็วๆ พ่อจะได้ซื้อใหม่ให้
.
พ่อแม่ผมจะไม่ซื้อของใดๆ ให้ ถ้าของสิ่งนั้นเป็นของใช้ส่วนตัว ยกเว้นเรื่อง “เรียน” เท่านั้น ที่พ่อแม่จะซื้อให้ แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องเรียนก็ใช้ว่าจะเปย์ให้ทุกอย่าง
.
เวลาผมจะไปแข่งกีฬาต่างจังหวัด เวลาแม่ให้เงินผมติดตัวไปใช้ ไม่ใช่ว่าขอเท่าไหร่ให้เท่านั้น แต่แม่จะคำนวนเลยว่าใน 1 วันใช้เงินกับอะไร เท่าไหร่บ้าง
.
เช่น
- กิน 30 จำนวน 3 มื้อ รวม 90
- ซื้อน่ำ 20 บาท
- ขนม 20 บาท
- รวม 130 บาท
- แถม ให้อีก 20 บาท
รวมทั้งหมดเป็น 150 บาท
.
ไปแข่งทั้งหมด 3 วัน เท่ากับว่าผมจะได้เงินติดตัวไปรวมทั้งหมด 450 บาท
.
ทั้งหมดนี้ คือ เหตุผลที่ผมเริ่มจะทำงานหาเงินตั้งแต่มัธยม 2 โดยการไปรับจ้างเป็นครูผู้ช่วยเทควันโด ได้เงินเดือนละ 2,000 บาท
.
จนไปเปิดชมรมเองในโรงเรียนมัธยมปลาย ได้เงินมาประมาณ 1-2 หมื่นบาท จนออกมาลงทุนเปิดโรงเรียนเองข้างนอกตอนเรียนมหาวิทยาลัย
.
ปิดเทอมผมไม่เคยหยุด วันหยุดผมไม่เคยนิ่ง เพราะผมเอาเวลาว่างไปทำงานหาเงินมาตลอดจนถึงวันนี้
.
แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะราบรื่นอย่างที่คิด เพราะตอนผมเรียนมหาวิทยาลัย ธุรกิจโรงเรียนสอนเทควันโดผมเจ๊งไปถึงสองครั้ง และขาดสภาพคล่องทางการเงินไปหลายหน ด้วยความที่ทำธุรกิจโดยที่ไม่มีความรู้ทางการเงิน
.
ผมเคยไม่มีเงินถึงขนาดต้องไปขอยืมเงินเพื่อน 100 บาท เพื่อนำมาซื้อมาม่าและไข่ไก่กิน 2 สัปดาห์
.
จนวันนี้ผมสามารถสร้างธุรกิจ ที่ทำเงินได้มากพอที่จะเลี้ยงตัวเองได้อย่างสบาย และแบ่งปันผู้อื่น
.
เมื่อช่วงกลางปี ผมกลับไปบ้านต่างจังหวัด ผมได้ไปถอนเงิน 2 หมื่นบาท เพื่อแจกจ่ายและบริจาคให้กับย่า ยาย หลานๆ และ เด็กกำพร้า
.
สิ่งที่แม่พูดกับผมคือ ไม่ต้องให้เงินแม่หรอก แค่ลูกเรียนจบหาเงินเลี้ยงตัวเองได้โดยไม่เดือดร้อนพ่อแม่ แม่ก็ภูมิใจแล้ว เพราะยังมีอีกหลายคนที่เรียนจบแล้ว โตแล้ว ยังต้องขอเงินพ่อแม่ใช้
.
สิ่งที่ผมมักจะพูดเสมอคือ “ขอบคุณ พ่อแม่ ที่สอนให้ผมรู้จักหาเงิน และเห็นคุณค่าของเงิน”
.
ตอนนั้นผมไม่เข้าใจหรอกว่าทำไมพ่อแม่ถึงต้องให้ผมไปทำงานหาเงินเอง ทั้งที่บ้านก็มีฐานะออกจะดี ในขณะที่เพื่อนแถวบ้านพ่อแม่ซื้อให้ทุกอย่าง ทั้งที่ฐานะเขาก็ไม่ได้ดีไปกว่าเรา
.
แถมเขายังมาบอกว่าเราเกิดมาสบายเป็นลูกเทวดา ทั้งที่ความจริงไม่ใช่อย่างที่คิด เพราะวันหยุดผมและน้องต้องตื่นมาแล้วแบ่งหน้าที่กันว่าใครจะถูพื้น ใครจะถูห้องน่ำ ใครจะขัดหน้าบ้าน จะซื้ออะไรก็ต้องทำงานหาเงินแลกมา
.
ตอนนั้นผมอยากจะตอบกลับไปว่า “พวกเอ็งสบายกว่าเราตั้งเยอะ พวกเอ็งอยากได้อะไรก็ได้ แต่เราต้องได้แผลก่อน จึงจะได้อะไรมาสักอย่าง”
.
แต่วันนี้ผมจึงเข้าใจแล้วว่า สิ่งที่พ่อแม่ได้ทิ้งไว้ให้ผมทั้งหมดมันคือ “มรดกทางความคิด” ที่มีค่ามากกว่าเงินมหาศาล
.
เพราะมันทำให้วันนี้ผมสามารถสร้างเนื้อสร้างตัวได้ด้วยตัวเอง โดยที่พ่อแม่ ไม่จำเป็นต้องให้ทรัพย์สินเงินทอง หรือ แม้แต่ธุรกิจของพ่อที่วันนี้ผมก็ไม่ได้เข้าไปข้องเกี่ยว
.
และด้วยความที่ตอนผมทำงานหาเงินตอนเด็กๆ พ่อแม่ไม่ได้ให้ต้นทุนอะไรมาก นอกจากให้ใช้แรง สมอง ความขยัน และ ความอดทน
.
จึงทำให้วันนี้ผมสามารถสร้างธุรกิจของตัวเองได้ โดยไม่ต้องรอมีเงินทุนก่อน เพราะสิ่งที่ผมถูกปลูกฝังมาคือ ให้เชื่อในการ “ลงมือทำ”
.
ถ้าวันนี้ใครที่ไม่ได้เกิดมามีพ่อแม่ร่ำรวย ก็อย่าได้น้อยใจ หรือ ใครที่กำลังมีลูก ก็อย่าอายที่จะสอนให้ลูกหาเงินตั้งแต่เด็ก
.
สุดท้ายนี้ ผมจึงอยากจะบอกทุกคนว่า
.
มรดก ที่มี “คุณค่า” มากที่สุด ไม่ใช่ “ทรัพย์สิน” แต่คือ “ความคิด”
.
เพราะต่อให้ได้รับมรดกเป็น “ทรัพย์สิน” มาเป็นล้าน แต่ขาดมรดกทาง “ความคิด” ซึ่งเปรียบเสมือนคู่มือการใช้งาน อีกไม่นานทุกอย่างก็กลับมาเป็น “ศูนย์” อยู่ดี
.
แต่ถ้ามรดกที่ได้รับเป็น “ความคิด” ต่อให้ได้รับทรัพย์สินมามูลค่าเป็น “ศูนย์” มันก็ยังสามารถนำไปสร้าง “ทรัพย์สิน” ให้กลับมาเป็นล้านได้
.
.
“เปลี่ยนตัวเองเป็นคนที่ดีขึ้น
ด้วยการอ่านหนังสือดีๆ สักเล่ม”
.
แต่ถ้าไม่รู้ว่าตัวเองควรอ่านเล่มไหน
ทักมาปรึกษาสมองไหลได้เลย
.
สั่งซื้อหนังสือออนไลน์ง่ายๆ ส่งตรงถึงหน้าบ้านคุณ
ได้ที่ Inbox เพจ #สมองไหล
มรดก คือ 在 Petssy Channel Youtube 的最佳貼文
มาดูทีดิน ตรงที่แม่ป้าจะยกให้ที่อุบล
ยินดีต้อนรับสู่ช่อง เพรชชี่ แชนแนล,petssy channel
นี้คือป้าเพรชชี่ และ ในช่องของป้าเพรชชี่ ป้าเพรชชี่จะนำเสนอว่า ป้าเพรชชี่ชอบทำ อาหาร / กิน และ พูดคุย ตลอด 55555 :D เพราะป้าชอบพูด ถึงจะไม่มีคนฟัง ป้าก็ยังจะพูดต่อไป 5555 ;D
และในคลิป หรือ vdo ของป้า จะเป็นแบบทำอาหารเสร็จ ก็กินโชว์เลย คือ เราไม่สามารถรอให้อาหารของเราเย็นได้ 5555 ;D
เริ่มต้นคลิปของป้าเพรชชี่ก็จะบอกว่าเมนูที่จะทำวันนี้มีส่วนผสมของอะไรบ้าง บางที่อาจจะมีส่วนผสมที่แฟนทางบ้านไม่ชอบก็สามารถปรับเปลี่ยนได้นะคะ และ ตามมาด้วยการลงมือทำอาหารเมนูของวันนี้อย่างไร ??
และ หลังจากที่ป้าเพรชชี่ทำอาหารสำหรับเมนูวันนี้เสร็จ ป้าเพรชชี่ ก็ จะมานั่งกินกับ ลุงคริส ด้วยกัน ปรกติ ลุงคริส จะชอบอาหารที่ป้าทำ แต่ บ้างเมนูที่มี ปลาร้า ปลาจ่อม กะปิ หรือ พวกอาหารกลิ่นแรงๆ ลุงคริส จะไม่ค่อย ปลื่มเท่าไร นอกจากป้าเพรชชี่จะหลอกให้ลุงกิน 55555 ;D
ก็ขอเชิญชวนทุกคนมากินข้าวเย็นไปพร้อมๆ กับป้าเพรชชี่ และ ลุงคริส นะคะ :)
ป้าหวังว่าทุกคนจะชอบ petssy channel นะคะ ขอขอบคุณทุกกำลังใจนะคะ :D
อย่าลื่ม กดติดตาม และ กด รูปกระดิ่ง ไว้นะคะ เพื่อจะได้ไม่พลาด คลิปใหม่ๆจาก ป้าเพรชชี่ กับ ลุงคริส ค่ะ :D https://www.youtube.com/channel/UClUI47CK4RBtHyGA5km0RUg?sub_confirmation=1
นี้คือเพส facebook ของป้าเพรชชี่ ค่ะ https://www.facebook.com/petssychannel
Petssy Channel
มรดก คือ 在 ความหมายของมรดก มรดก คือ... - สำนักกฎหมายนิติศาสตร์หาดใหญ่ 的推薦與評價
มรดก คือ ทรัพย์สินทุกชนิดของผู้ตายที่มีอยู่ก่อนถึงแก่ความตาย รวมทั้งสิทธิหน้าที่และความรับผิดต่าง ๆ เช่น กรรมสิทธิ์ในที่ดิน รถยนต์ ... ... <看更多>
มรดก คือ 在 ทำความเข้าใจ “มรดก” ควรตกถึงใคร ? : รู้เท่ารู้ทัน - YouTube 的推薦與評價
... คือ เรื่องของ “ มรดก ” ถ้าผู้ตายมีพินัยกรรม จะมีการจัดสรรตามพินัยกรรมนั้น แต่บางครั้งมีข่าวว่าคนในครอบครัวแย่งชิง มรดก ทั้งที่มีพินัยกรรมระบุไป ... ... <看更多>
มรดก คือ 在 มรดกคืออะไร และใครบ้างมีสิทธิรับมรดก #มรดก #คืออะไร - YouTube 的推薦與評價
✨✨ มรดกคือ อะไร และใครบ้างมีสิทธิรับมรดก✨✨ # มรดก # คือ อะไร. 191 views · 6 months ago ...more. กรมที่ดิน Channel. 10.1K. Subscribe. 10.1K ... ... <看更多>